วิธีจับผู้ชาย

แด่ ... ผู้หญิงที่ไม่เคยพบผู้ชายดีๆ หรือ ปล่อยให้ผู้ชายดีๆหลุดมือไป

คำนำ
ชีวิตคู่ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุข ถ้าฝ่ายใดทำให้อีกฝ่ายไม่มีความสุข ย่อมลงเอยด้วยการหย่าร้างแยกทาง เพราะฉะนั้น ถ้าผู้ชายพูดว่าไม่ชอบอะไร ผู้หญิงต้องรีบปรับตัว อย่าดื้อรั้น เช่นเดียวกัน ถ้าผู้หญิงไม่ชอบอะไร อย่าเก็บไว้ ต้องรีบบอก ผู้ชายเป็นเพศที่มีเหตุผล เมื่อได้รู้แล้ว สามารถปรับตัวได้ง่าย

ธรรมชาติของคน จะมีความสุขเมื่อได้ทำในสิ่งที่อยากทำ การทำให้ผู้ชายมีความสุข จึงมีหลักง่ายๆคือ ตามใจ และคอยตามดูแลเอาใจใส่ให้เขาสบายกาย ถ้าเขาชวนไปไหน หรือขอทำอะไร เราอาจหยุดคิดหรือเล่นตัวบ้างครั้งหนึ่ง ถ้าเขาพูดซ้ำ ต้องยอมตาม พอเขาได้ทำอะไรที่มีความสุขร่วมกับเราแล้ว เขาจะรักเรามากขึ้นเรื่อยๆ เราไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนเลย แต่ถ้าจำเป็นต้องชวนเพื่อเริ่มความสัมพันธ์ อย่าใช้วิธีชวนตรงๆ เพราะอาจเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่ให้คุยกับเขา ถามเขาว่าชอบอะไร แล้วออกความเห็นในทำนองว่า เราจะไปช่วย

ผู้หญิงอ้าปากเถียงเมื่อไหร่ คือแพ้เมื่อนั้น เพราะผู้ชายมีศักดิ์ศรีมาก การเถียงแสดงถึงความไม่เชื่อใจ ทำให้ผู้ชายรู้สึกต่ำต้อย แล้วเขาก็จะตอบแทนด้วยความรักที่จืดจางลง ยิ่งถ้าเถียงขึ้นกูมึง หรือไม่เชื่อฟังในสิ่งที่เขาพยายามแนะนำช่วยเหลือ เขายิ่งหมดรักเร็วมาก การกระทำที่แสดงว่าหมดรักคือ ตีตัวออกห่าง ถ้าต้องทนอยู่ด้วยกัน ก็จะอยู่อย่างรังเกียจ ไม่อยากมีเซ็กส์ด้วย ถ้ายังขืนโต้เถียงต่อไป ก็จะถึงขึ้นลงมือทำร้ายร่างกาย แรกๆอาจแค่เบาๆ พอโต้เถียงครั้งต่อไปจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นเลือดตกยางออกและฆ่า

ผู้หญิงที่ชอบเรียกร้องสิทธิสตรี เรียกร้องความเท่าเทียมกันของหญิงชาย มักจะอยู่เป็นโสด เพราะพวกเธอไม่ได้ตระหนักว่า โลกไม่ได้สร้างขึ้นจากการทำสำเนา แต่การสร้างสรรค์เกิดขึ้นจากการเสริมกันและกัน ความสุขไม่ได้เกิดจากการแก่งแย่งชิงดีกัน แต่เกิดจากการช่วยเหลือซึ่งกัีนและกัน เหมือนในเพลง "เธอฉันไม่ใช่ เท้าหลังเท้าหน้า แต่เป็นเท้าซ้ายเท้าขวาที่เกื้อหนุนกัน..." สังคมตะวันตกนิยมเรื่องเรื่องสิทธิ เช่น ลูกมีสิทธิในการควบคุมชีวิตของตนเอง ที่พ่อแม่จะเข้ามาก้าวก่ายไม่ได้ สังคมตะวันตกจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ต่างจากสังคมตะวันออกที่นิยมเรื่องหน้าที่ เช่น พ่อแม่ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนลูก ลูกมีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ สังคมตะวันออกจึงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

ธรรมชาติของผู้หญิงเกิดมาเป็นผู้ตาม เพราะ ผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชาย แถมยังเจ็บป่วยง่าย ทั้งจากฮอร์โมนที่ขึ้นๆลงๆ และสารเคมีต่างๆในเครื่องสำอาง เดี๋ยวเวียนหัว หน้ามืด ปวดนั่นปวดนี่ นอกจากนี้ ผู้หญิงยังต้องห่วงเรื่องความสวยความงาม เหล่านี้ทำให้ผู้หญิงลุยมากไม่ได้

เพราะไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ ผู้หญิงที่กล้าเปลี่ยนตัวเองเท่านั้น ที่จะได้รับชัยชนะในสนามแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ใช่การเปลี่ยนเพื่อให้ตรงกับความต้องการของใครสักคน แต่เป็นการเปลี่ยนให้ตรงกับมาตรฐานของผู้ชายส่วนใหญ่ ผู้หญิงที่ประสบความล้มเหลวในความรัก โดยเฉพาะรักในวัยเรียนเกิดจากการไม่รู้จักวางตัว เพราะวัยเรียนมักขาดประสบการณ์เรื่องการใช้ชีวิต

หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำไมผู้ชายไม่เปลี่ยนบ้าง? มีหลายเหตุผลที่ผู้ชายไม่เปลี่ยน เป็นต้นว่า เขาไม่ต้องการใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย หรือ เขากำลังอยู่ในกรอบความคิดหนึ่งในเวลานั้น ซึ่งความคิดนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาเปลียนไป หรือที่เลวร้ายที่สุดคือ เขากำลังถูกกักขัง  ด้วยนิสัยของคุณ! ดังนั้น เมื่อคุณเปลี่ยนเขาไม่ได้ คุณจึงไม่ควรยึดติดกับพฤติกรรมของเขา เพราะการคาดหวังทำให้เกิดความเครียด ทางเลือกของชีวิตคู่ ดูคล้ายกับว่า จะมีทางเลือกเพียงสองทาง คือ แยกทางกัน กับ เดินไปด้วยกัน ถ้าคุณเลือกที่จะเดินไปด้วยกัน คุณเหลือทางเลือกทางเดียวคือ แก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง

นอกจากการเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ให้รู้จักมารยาทแล้ว ผลการวิจัยยังพบว่า ปัญหาชีวิตคู่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึ่งผู้หญิงมักมีความเปลี่ยนแปลงสูงช่วงใกล้มีประจำเดือน ซึ่งพวกเธอเองยังไม่เข้าใจตัวเอง ถึงแม้ว่าผู้ชายจะไม่มีประจำเดือน ก็อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ได้ แต่น้อยกว่า


ผู้ชายสามารถแสดงออก
ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของ
ตนเองได้
กฎธรรมชาติ
ผู้ชายทุกคนมีพื้นฐานและความชอบคล้ายๆกัน อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) และสัญชาติญาณ ที่ติดตัวมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ที่ผู้ชายจะต้องออกไปล่าสัตว์เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ผู้ชายจึงชอบเป็นนักล่า และนักสำรวจ แต่ไม่มีสัญชาติญาณรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น เหมือนผู้หญิงที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่กับที่ ถึงแม้ว่า นิสัยของผู้ชายแต่ละคน อาจแตกต่างกันบ้างจากการเลี้ยงดูและประสบการณ์ แต่เป็นความเหมือนที่แตกต่าง พิสูจน์ได้จาก ผู้ชายที่มาจากการเลี้ยงดูต่างกัน ต่างถิ่นฐาน ต่างภาษา  เมื่อพวกเขามาใช้ชีวิตร่วมกัน มักจะเข้าใจซึ่งกันและกัน ธรรมชาติของผู้ชาย คือ
  1. เกิดมาเพื่อแก้ปัญหา เราจึงต้องคุยกับเขาในลักษณะของคำถาม หรือให้ข้อมูลบางส่วน ให้เขาไปคิดต่อเอาเอง อย่าด่วนสรุป
  2. ไม่สนใจเรื่องเล็กน้อย เขาสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องรู้จักชื่อ เขาสามารถไปพักร้อน 5 วันได้ด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว เขาอยากได้รับการดูแลในเรื่องเล็กน้อย เหมือนเช่นที่เขาเคยได้รับจากมารดา
  3. มีศักดิ์ศรีมาก การพูดหรือทำให้เขาเสียหน้าจะทำให้เขารักคุณน้อยลง ถ้าคุณไม่ให้เกียรติเขา ไม่เชื่อใจเขา เขาก็จะไม่มีแรงรักคุณ เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาสอนหรือสั่ง  ผู้หญิงที่ฉลาดสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาได้โดยใช้วิธีอ้อมๆ พูดให้เขาคิดได้เอง แต่ไม่ใช่การสั่งโดยตรง
  4. ขี้หึง เป็นความลับที่ผู้ชายทุกคนไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวขายหน้า ไม่ว่าเขาระแวงว่าคุณจะนอกใจทั้งๆที่ยังไม่มีหลักฐาน หรือ เขาไม่กล้าเข้าไปควบคุมชีวิตคุณ เช่น เขาไม่อยากให้คุณกลับบ้านค่ำ แต่พูดไม่ได้เพราะกลัวเสียศักดิ์ศรี เขาจึงเลือกที่จะเดินจากไป คุณต้องใช้ความพยายามตลอดชีวิตเพื่อพิสูจน์ให้เขาเห็นและเชื่อใจ อย่าคิดไปเองว่าเขาต้องเชื่อใจคุณเพียงเพราะคุณบริสุทธิ์ใจ ถ้าคุณทำให้เขาไว้ใจได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของสัมพันธ์ที่ยืนยาว
  5. รักอิสระ เขาอึดอัดและอยากจะตีจากคุณถ้ารู้สึกว่าถูกควบคุม จนทำให้เขาเลือกทางเดินชีวิตของตนเองไม่ได้ คุณต้องระวังคำพูดนั้นอย่าให้เขารู้สึกว่าถูกผูกมัด เพราะจะทำให้เขาอึดอัดและต้องการหนีห่าง ถ้าผู้หญิงเลิกจุกจิก ผู้ชายจะหันมาจู๋จี๋ คุณสามารถโทรเช็คได้ว่าเขาไปไหนกับใคร แต่ต้องไม่ตามไปด้วยตลอดเวลา อย่าบังคับให้เขาทำในเรื่องส่วนตัวของคุณจนกว่าเขาจะรับอาสาขึ้นมาเอง
  6. เก็บความรู้สึกเก่ง เขาสามารถเป็นมิตรกับคนที่เขาเกลียดแต่ในใจรอวันแก้แค้น ต่างจากผู้หญิงที่ถ้าไม่ชอบใครจะไม่พูดด้วยเลย ถ้าเขาแสดงอาการงอนหึงหวง แสดงว่าเขายังรักคุณอยู่ แต่ถ้าเขาพูดดีไม่ใช้อารมณ์กับคุณ แสดงว่าเขามีคนใหม่หรือหมดรักคุณแล้ว ซึ่งมักเกิดจากคุณทำให้เขาไม่สบายใจ เขาเอาใจใส่คุณในช่วงแรก ของความสัมพันธ์เพราะเขาต้องการได้รับสิ่งนั้นตอบแทน แต่ถ้าคุณไม่มีให้เขาในเวลาต่อมา ความรักที่เคยมีให้จะเริ่มจืดจางลง
  7. ไม่ได้เกิดมาเพื่อเอาใจใคร เขาพูดไม่เก่ง เพราะเขาต้องคิดก่อนพูด การที่เขาเอาใจ พูดมาก หรือพูดตลกตอนที่พบกันใหม่ๆนั้น เป็นเพราะเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ีที่ดี ถึงแม้ว่าการพูดมาก จะฝืนความรู้สึกของเขาอยู่บ้าง และเมื่อคบกันไปเรื่อยๆ เขาก็จะกลับเข้าสู่ความเงียบในที่สุด
  8. ตรงไปตรงมา สิ่งใดที่เขาพูดออกมา เขาคิดเช่นนั้น ถ้าเขาเงียบแสดงว่าเขายังคิดไม่ออกหรือกำลังรวบรวมข้อมูล
  9. ไม่มีความลัีบ ถ้าผู้ชายคนใดไม่มีความลับกับแฟน แสดงว่าเขาไม่มีความลับ หรือ ยังไม่มีแฟน ผู้ชายพูดโกหกเพราะผู้หญิงไม่ได้เกิดมาเพื่อรับรู้ความจริง ถ้าเขาบอกความจริง จะต้องมีเรื่องตามมา
  10. เรื่องที่เจ็บปวดที่สุดของชายทุกคนคือถูกคนรักนอกใจ ทำให้เขาหมดเรี่ยวแรงที่จะทำงานไปหลายเดือน หรืออาจต้องออกจากงาน
ชายหญิงคุยกัน
เมื่อเรารู้กฎธรรมชาติแล้ว เราจึงสันนิษฐานต่อไปได้ว่า มีโอกาสสูงที่ผู้ชายกับผู้หญิงจะทะเลาะกัน เพราะคุยเรื่องเดียวกัน แต่มองคนละมุม เช่น ผู้ชายกล่าวขึ้นลอยๆว่า "ปัญหารถติด แก้ไขได้โดยใช้เงินมาสร้างถนน" แต่คุณผู้หญิงตอบว่า "เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่างหรอก อย่างน้อยก็ซื้อใจคนไม่ได้" ประโยคแรกพูดถึงความจริง แต่ประโยคที่สองพูดถึงความรู้สึก ถ้าใครที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ ย่อมเกิดการปะทะคารมกันขึ้น ดังนั้นถ้าคุณผู้หญิงแสดงความรู้สึกออกไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้ฝ่ายชายเถียงกลับเมื่อไหร่ คุณควรจะนิ่งเสีย

ผู้หญิงมีปัญหาเรื่องการบอกเส้นทาง ในขณะที่ผู้ชายสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน ทันทีทันใด ว่าหนึ่งนิ้วในแผนที่ มันเท่ากับหนึ่งร้อยกิโลเมตรได้ยังไง แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงความแตกต่างข้อนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่เข้าใจกัน จนถึงการโต้เถียงกันในที่สุด วิธีการวางตัวคือ สิ่งใดที่คุณผู้หญิงไม่ถนัด คุณไม่ควรปฎิเสธเสียทีเดียว เพราะจะทำให้ผู้ถูกปฎิเสธเสียความรู้สึก แต่ควรพยายามก่อน เช่น เขาถามทาง ก็บอกทาง แต่ถ้าบอกทางผิด ทำให้เขาสับสน ก็จงนิ่งเงียบเสีย

ผู้ชายคือตัวปัญหา
คนอารมณ์ดี  ตั้งข้อสังเกตว่า  ปัญหาใหญ่ๆของผู้หญิงในโลกนี้เริ่มมาจากผู้ชาย (MEN) ทั้งสิ้น (โปรดสังเกตตัวอักษรตัวใหญ่ในวงเล็บ)
     1. ปัญหาทางจิต ( MENtal illness)
     2. ปัญหาปวดประจำเดือน ( MENstrual cramps)
     3. ปัญหาหัวใจ ( MENtal  breakdown)
     4. ปัญหาในวัยหมดประจำเดือน (MENopause)

ทฤษฎีคุณสมบัติของคู่แท้
  1. มีศรัทธาเสมอกัน
  2. มีศีลเสมอกัน
  3. มีการบริจาคทานเสมอกัน
  4. มีปัญญาเสมอกัน อย่าเสี่ยง คบกับผู้ที่มีต่ำต้อยกว่าทั้งอายุและ ฐานะทางสังคม เพราะ ธรรมชาติของผู้หญิง มักรำเริบ คือ พูดข่มผู้ชายในเรื่องที่เขาด้อยกว่า ธรรมชาติผู้หญิงจะใช้เหตุผลไม่ค่อยเป็นอยู่แล้ว ยิ่งการศึกษาต่ำ ยิ่งชอบพูดแต่เรื่องไร้สาระ ฟังเรื่องที่เป็นเหตุผลหรือปรัชญาไม่เข้าใจ อยู่ด้วยก็มีแต่จะทะเลาะกัน
รักแรกพบ
เกิดจาก 2 สาเหตุคือ
  1. เคยทำบุญตักบาตรร่วมกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว
  2. ช่วยเหลือเกื้อหนุนกันในชาตินี้
หาผู้ชายได้ที่ไหน
คนรักมักจะพบกันตามสถานที่เรียนหรือที่ทำงาน หางานทำในสถานที่ที่ๆผู้ชายอยู่ งานในชีวิตประจำวัน เช่น ขายเสื้อผ้าผู้ชาย เซลล์ขายรถ  ขายอุปกรณ์ทางเทคนิคต่างๆที่ต้องเดินทางไปพบลูกค้า รับเหมาก่อสร้าง ไอที หรือ งานวันหยุด เช่น กอล์ฟคลับ เด็กเสริฟในร้านอาหารหรูๆ หรือ เข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆมากมายที่ผู้ชายเขาทำกันเช่น ดำน้ำ เดินป่า ออฟโรด ฟุตบอล ถ่ายภาพ ตกปลา เจ็ทสกี ฯลฯ สถานเหล่านี้ผู้หญิงมักไม่ค่อยไปกัน ทำให้การแข่งขันอยู่ในระดับต่ำ และพวกผู้ชายยินดีที่เห็นผู้หญิงมีส่วนร่วม ผู้ชายที่พบกันตอนกลางวันส่วนใหญ่ ยังอ่อนต่อโลกและ ยังให้เกียรติไม่กล้าล่วงล้ำ หรือทำเกินเลยกับผู้หญิง ถ้าไม่กล้าไปคนเดียวให้หาเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่เป็นผู้ชายพาไป หรือแม้แต่งานกลางคืนเช่น นักร้องจนถึงแคชเชียร์ตามคาเฟ่หรือร้านคาราโอเกะแบบเรียกเด็กมานั่งเป็นเพื่อน เป็นสถานที่ที่ มักจะมีผู้ชายไก่อ่อนแต่การศึกษาหน้าที่การงานดีไปรวมตัวกันอยู่หลังเลิกงาน หลายคนได้ภรรยามาจากสถานที่เหล่านี้

แต่อย่าไปหาตามผับ เพราะ ที่นั่นมีแต่เสือสิงกระทิงแรด คนพวกนี้ไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงที่พบกันตามผับ พวกเขาไปเพียงเพื่อหาคู่นอนเท่านั้น ถ้าพบกันในผับ ถึงแม้ว่าคุณจะยืนยันว่าตนเองไม่ใช่นักเที่ยว แต่เขาจะยังคงเคลือบแคลงใจอยู่ตลอดเวลาว่า คุณผ่านใครมาบ้าง โกหกเขาหรือไม่ สุดท้ายความระแวงสงสัย จะกลายเป็นการเหินห่าง หรือ ถ้าเขามั่นใจในตัวคุณจริงๆ เขาคงจะรู้สึกอับอาย เกินกว่าที่จะไปบอกใครต่อใครว่า พบกับคุณที่ไหน

บางคนบอกว่าให้ไป ร้านหนังสือ หรือ ฟิตเนส  แต่สถานที่เหล่านี้มีคนหลากหลายเกินไป ร้านหนังสือขาดกิจกรรมร่วม ส่วนฟิตเนสมีเกย์มาก เพราะคนกลุ่มนี้ต้องทำตัวให้น่าสนใจตลอดเวลา ต่างจากผู้ชายแท้ๆที่มักไม่ค่อยสนใจเรื่องรูปร่างเท่าใดนัก ผู้ชายทำงานที่รายได้สูงส่วนใหญ่ จะใช้เวลาหลังเลิกงานที่ร้านอาหารดีๆ  และ อาจจบลงที่ คลับ โคโยตี้ หรือ อาบอบนวด

ถ้าคุณต้องทำงานประจำเพื่อหาเงินเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายมากนัก คุณมีโอกาสอยู่คนเดียวจนแก่ ลองคิดใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนงานเปลี่ยนตำแหน่ง ดั่งโบราณว่า "ยอมเสียทรัพย์ เพื่อแลกชีวิต" เพราะถ้าทำงานเพราะเหตุผลเรื่องเงินอย่างเดียว ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณจะหาเงินได้ และถ้าคุณไม่มีภาระใดนอกจากเลี้ยงตนเอง คุณอาจหาเงินเก็บสักก้อนไว้ใช้จ่ายเป็นระยะเวลานานพอที่จะไม่ต้องทำงาน ใช้เวลาศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะดึงดูดชาย พบปะเพื่อนฝูงและ ให้เพื่อนพาไปพบคนรู้จัก

วิธีสนิทสนม
วิธีีทำให้เขาหันมาสนใจคุณ คือ ถามเขาในเรื่องที่เขาสนใจ "ชายชาตรีจะยอมสละชีวิตเพื่อผู้รู้ใจ" และนี่คือเหตุผลของชายรักชาย คือผู้ชายจะเข้าใจกันได้ดีกว่า ดังนั้น ไม่ว่าความรักของคุณจะเริ่มต้นใหม่หรือร้าวฉานมาก่อนหน้านี้ แล้วต้องการให้เขากลับมาใส่ใจคุณ ชวนคุณไปไหนมาไหน มีวิธีง่ายๆคือ คุณจะต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยการศึกษาเรื่องที่เขาชอบ แล้วการสนทนาของคุณทุกๆครั้งจะได้อรรถรส เขาจะอยากคุยกับคุณอยากปรับทุกข์กับคุณมากกว่าคนอื่น อย่าหวังว่าเขาจะปรับตัวมาเรื่องที่คุณชอบ เพราะผู้ชายเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ และถ้าเขาปรับตัวเพื่อคุณจริง ท้ายที่สุดแล้วคุณผู้หญิงก็อาจจะเกิดอาการเบื่อหน่าย เข้าใจเอาเองว่าเขาไม่เป็นแมนเอาเสียเลย

การเลียนแบบ พูดหรือทำในสิ่งที่เขาชอบ เป็นการให้เกียรติเขา เมื่อคุณให้เกียรติเขา เขาจะให้เกียรติคุณตอบแทนในรูปของความรัก

เมื่อรู้ว่าเขาชอบอะไรแล้ว พยายามเข้าถึงตัวโดยวิธี โทรขอคำปรึกษา พอปรึกษาบ่อยๆ จะเริ่มสนิทกัน ในไม่ช้าจะเริ่มผูกพันกัน ตามภาษิตโบราณว่า "รักแท้ แพ้ใกล้ชิด"

วิธีใกล้ชิด คือ ขอความช่วยเหลือในเรื่องที่เขาถนัด เพื่อให้ได้เจอกัน ควรเป็นเรื่องเล็กน้อย ที่ไม่ทำให้เขาต้องเสียเงินเสียเวลามากเกินไป เช่น ถ้าเขามีอาชีพสร้างบ้าน อาจขอให้เขามาดูปัญหาในบ้านของคุณว่า มีอะไรต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ถ้าเขามีน้ำใจเดินทางมาช่วย ให้ตอบแทนเขาด้วยการพาไปเลี้ยงข้าว ทำเช่นนี้จะเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น

ถ้าเขาปิดตัวเอง แสดงว่าเขาอาจกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ เราต้องทำตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดี ถามเขาว่า เจอปัญหาอะไรมาบ้าง บอกให้เขาระบายออกมาให้หมด วันต่อไป เวลาเขามีปัญหาเขาจะนึกถึงคุณ แล้วความผูกพันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รอเวลาที่เขาสบายใจแล้วค่อยชาร์จ

พอฟังเขาเล่าปัญหาจนจบ คุณก็จะรู้แล้วว่าเขามีปัญหาอะไรบ้าง ทั้งในชีวิตการงานและเรื่องส่วนตัว แล้วพยายามช่วยเติมเต็มในส่วนที่เขาขาด เช่น รู้ว่าเขามีปัญหากับเจ้านาย คุณก็ไปอ่านหนังสือหรือถามผู้รู้ดูว่าจะจัดการกับเจ้านายอย่างไร แล้วมาบอกเขา  หรือ รู้ว่าเขากำลังหาซื้อบ้านอยู่ คุณก็อาสาช่วยหาให้ด้วยอีกแรง หาได้แล้วพาเขาไปดู วิธีนี้ จะได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น และจะทำให้เขารู้สึกว่า คุณมาช่วยเสริมชีวิตเขา ไม่ได้มาเป็นภาระเหมือนผู้หญิงคนอื่น

วิธีครองใจชาย
การครองใจชายก็เหมือนการก่อกองไฟ ที่ต้องมีเชื้อ ถ้าไม่มีเชื้อ จะพยายามอย่างไรก็ไม่ได้ผล ก่อนอื่น ต้องเริ่มด้วยประเมินว่าฝ่ายชายมีความรู้สึกต่อคุณหรือไม่ การจะรู้ว่าฝ่ายชายมีใจให้กับคุณ คือ เขาจะถามเรื่องแฟน (ปกติผู้ชายจะไม่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของใคร ผู้ชายจึงสามารถเดินทางไปด้วยกันได้ เพียงแค่รู้จักหน้า แต่ไม่รู้จักชื่อ) ถ้าเริ่มเป็นหนักขึ้น ก็จะมีอารมณ์ไม่ปกติ แสดงอาการ ขี้งอน พูดประชดประชัน ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจและคิดว่าเขานิสัยผู้หญิง จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะเขาจะเป็นกับคุณคนเดียว ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาไม่มีใจด้วย เขาก็จะวางตัวเป็นปกติ เป็นคนใจเย็น ปฎิบัติกับผู้หญิงเหล่านั้นเหมือนที่ทำกับคนทั่วไป ไม่อยากคุยโทรศัพท์ด้วยบ่อยๆ อาจจะคุยแค่ครั้งแรกๆ แต่ถ้าติดต่อไปบ่อยๆ เขาก็จะเงียบ โทรไปแล้วไม่รับ

สาเหตุที่ผู้ชายไม่มีเชื้อ ก็เพราะจุดบกพร่องในตัวผู้หญิงเอง บางคนอ้วนเกินไป บางคนนิสัยไม่ถูกจริต บางคนหน้าตาดูไม่ได้ ผู้หญิงที่หน้าตาดี หุ่นดี จึงมั่นใจได้ว่า จะจีบผู้ชายได้ทุกคน (ส่วนจะคบกันรอดหรือไม่นั่นอยู่ที่นิสัย) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คนหน้าตาขี้เหร่นมเล็กจะสิ้นหวัง เพราะ ยังมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง เช่น ความอบอุ่น

เมื่อรู้ว่าเขามีใจให้แล้ว ขั้นต่อไปคือ ตื๊อ เหมือนกองไฟที่ต้องหมั่นเติมฟืน เพื่อให้ไฟลุกแรงขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ การตื๊อต้องทำด้วยความสม่ำเสมอ พยายามทำตัวให้ว่างสำหรับเขา อย่าทำให้เขาเป็นทุกข์ อย่าแกล้งลองใจด้วยการผลุบๆโผล่ๆ หรือใช้เทคนิคต่างๆที่เรียกว่า tricky เพราะ จะทำให้เขาอารมณ์เสีย เหมือนกับการเอาน้ำไปรดกองไฟ ทำให้ไฟอ่อนลง จากที่เคยเป็นห่วงก็จะกลายเป็นความทุกข์ แล้วความทุกข์ก็จะเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น ทำให้ความรู้สึกดีๆที่มีให้คุณ ลดลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นศูนย์ ถึงวันนั้น คุณจะพยายามตื๊อเขาอย่างไร ก็ไม่สามารถเรียกความรู้สึกดีๆของเขากลับคืนมา เหมือนกองไฟที่ไม่มีเชื้อ จะจุดอย่างไรก็ไม่ติด ถึงแม้ว่ากองไฟจะหาเชื้อมาใหม่ได้ แต่ความรู้สึกของคน ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้ เพราะภาพความเลวร้ายที่คุณทำไว้ ยังคงฝังอยู่ในความทรงจำ

วิธีเลือกคบผู้ชาย
ตัดไฟแต่ต้นลม  ผู้ชายเกิดมาเพื่อรับรู้ความจริง  ถ้ามีคนมาจีบแล้วไม่ชอบ ให้บอกเขาไปว่า "ฉันมีแฟนแล้ว" "ฉันไม่ชอบเธอ เพราะเธอจน,อ้วน...ฯลฯ" เขาจะเข้าใจและเดินจากไปอย่างสงบ ห้ามพูดเป็นนัยให้เขาไปคิดต่อเอาเอง เช่น เป็นเพื่อนกันนะ เธอดีเกินไป ฯลฯ เพราะพวกเขาจะไม่มีวันคิดได้เอง และจะยังคงวนเวียนอยู่กับคุณเพื่อหาคำตอบ และ อย่าปล่อยเวลาล่วงเลยไปโดยไม่พูดอะไร ถ้าเขามารู้ภายหลัง จะทำให้เขาเสียเวลาเสียความรู้สึก ถ้ายังโดนตื๊อไม่เลิก ให้ขู่ไปว่าจะให้คุยกับแฟน แต่อย่าส่งโทรศัพท์ให้ผู้ชายเคลียร์กับเขา เพราะจะทำให้เขาเจ็บใจ และอาจหวนมาทำร้ายคุณได้

แต่ถ้าชอบเขาต้องให้เขาเต็มร้อย เล่นตัวนิดหน่อยเพื่อรักษาศักดิ์ศรีผู้หญิง ถ้าไม่เล่นตัวเลยเขาจะนึกว่าเป็นกะเทยตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ถอดเสื้อผ้า แต่อย่าเล่นตัวมากเกินไป เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มักจะซื่อบื้อไม่รู้ว่าผู้หญิงเล่นตัวหมายความว่าอะไร แถมผู้ชายบางคนก็มีศักดิ์ศรีมาก ดังนั้นผู้ชายส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่พวกหัวงูมักจะถอยหนีเมื่อผู้หญิงเล่นตัว

ถ้ายอมให้เขาล่วงล้ำแล้ว ห้ามบอกว่า "ให้ได้แค่นี้" เพราะจะทำให้เขาอารมณ์ค้าง

อย่าลองใจเขาด้วยการหาผู้ชายคนอื่นมาจีบคุณ เพราะ จะทำให้เขาไม่สบายใจ ความระแวงจะทำให้เขาอยากหนีจากคุณมากกว่าที่จะวิ่งมาหา เพราะผู้ชายชอบหนีปัญหาที่ทำให้เขาไม่สบายใจ แต่ที่เขาวิ่งมาหาเพราะเขาอยากจะรู้ความจริงก่อนตีจากเท่านั้นเอง

ชายสดที่ยังไม่มีผู้หญิงมาข้องแวะ เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต ก็จะมีเวลาให้กับเธอได้อย่างเต็มที่ ต่างจากพวกเจ้าชู้หัวงู ที่มักจะต้องสับรางไปมา ทำให้ไม่มีเวลาให้กับผู้หญิงคนใดคนหนึ่งมากนัก

ชายเจ้าชู้ ต่างจากชายโสดที่ยังไม่มีแฟน ตรงที่ ชายเจ้าชู้ม้ักจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เวลาที่อยู่กับคุณ

ถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นคนโสดหรือมีภรรยาแล้ว สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการแกล้งชวนเขาไปเที่ยวแบบข้ามคืน หรือ ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด เป็นเวลาหลายวัน โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่เขาต้องอยู่กับครอบครัว ชายที่มีครอบครัวแล้ว จะไปค้างคืนที่ไหนไม่ได้ เพราะมีภรรยาคอยตามอยู่  แต่ไม่เสมอไป บางคนอาจโกหกภรรยามาเที่ยว คุณจึงต้องสังเกตุเรื่องอื่นประกอบด้วย เช่น คนที่ยังไม่มีแฟนมักพูดไม่เก่ง คนที่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนมักจะพูดหวานๆ ส่วนพวกหัวงูจะชอบปล่อยมุข

อีกวิธีหนึ่งคือ ฝากรอยลิปสติกไว้ที่ ใบหน้า คอ และ เสื้อผ้า เพื่อให้ภรรยาเขาได้รู้

ระวังอย่าคบกับผู้ชายสุ่มสี่สุ่มห้า มิฉะนั้นหากเจอคนไม่ดี อาจถูกทำร้ายร่างกาย จนถึง วางยา หรือใช้ไสยศาสตร์ ถ้ามีคนขอเบอร์ ให้แล้วไม่มั่นใจว่าเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ ควรให้เบอร์ปลอมไป แต่อย่าปฎิเสธ เพราะคนไม่ดีอาจตามมาทำร้ายได้ก่อนที่คุณจะกลับถึงบ้าน หากต้องการคบ ควรแน่ใจว่าเขามีพื้นฐานการศึกษาและสังคมที่ดี

ผู้ชายดีๆเป็นยังไง
บุรุษที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ให้เกียรติสตรี มีสัมมาอาชีพดี รักเดียวใจเดียว นั้นหายาก (สุภาพบุรุษ)

โบราณว่า "เลือกนักมักได้แร่" ไม่ได้ทอง เมื่อไม่มีใครได้ดั่งใจ สุดท้ายจึงต้องอยู่เป็นโสด หรือเมื่ออายุเกินสามสิบ เริ่มรู้สึกตัวว่าแก่แล้ว ต้องรีบคว้าผู้ชายที่อาจไม่ใช่สเปคมาร่วมชีวิต ทั้งๆที่ในช่วงอายุยังน้อย มีโอกาสพบผู้ชายมากมาย แต่กลับมองว่าพวกเขาเหล่านั้นซื่อบื้อ  ทั้งนี้เป็นเพราะความแตกต่างระหว่างชายหญิงทำให้ ผู้หญิงไม่รู้ความจริงที่ผู้ชายรู้กันว่า ผู้ชายมีพื้นฐานเหมือนกันหมด คือซื่อบื้อเหมือนกันหมด บุคลิกของแต่ละคนอาจจะต่างกันบ้าง จากการเลี้ยงดูและประสบการณ์ เช่น คนที่เกิดมาในครอบครัวขนาดใหญ่ ไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสผู้หญิง อาจจะแสดงความอ่อนแอ ออกมามากกว่าพวกหัวงู ทั้งๆที่โดยกรรมพันธุ์แล้ว เขาอาจเป็นคนเข้มแข็งมาก หรือพวกเพลย์บอยผ่านผู้หญิงมามาก จะรู้วิธีเอาใจผู้หญิงได้มากกว่า เท่านั้นเอง

บางคนบอกว่าฝรั่งดีกว่าคนไทย คนที่เคยอยู่กับฝรั่งจะตอบได้ว่าไม่แตกต่างกัน ผู้หญิงบางคนแสวงหาผู้ชายแบบที่เป็นแมน เป็นผู้นำ เป็นสุภาพบุรุษ ยิ่งผู้หญิงสมัยนี้ประหลาดต้องการผู้ชายที่ชอบทำกับข้าว ป้อนข้าว เลี้ยงลูก แต่ความเป็นจริงคือ การแสดงออกเหล่านั้น เป็นเพียงเปลือกนอกที่ฉาบแต่ละคนไว้ สรุปง่ายๆก็คือ ผู้ชายก็เหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็นชาติไหน เขามีความชอบคล้ายๆกัน เช่น ชอบมองผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆ

ที่จริงแล้ว ผู้ชายที่ดูซื่อบื้อควรได้รับการสนใจมากกว่า เพราะ ความไม่น่าสนใจเป็นตัวบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการคบหาผู้หญิง เพราะฉะนั้น ควรเปลี่ยนจากการคาดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ มาเป็นคาดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้  โดยเปลี่ยนจากฝ่ายรับมาเป็นฝ่ายรุก เอาชนะใจเขาด้วยความรักความเข้าใจ แล้วแผ่อิทธิพลเข้าไปช่วยแก้ไขพฤติกรรมที่ยังผิดพลาดของเขา  โดยหากมีสิ่งใดที่คุณไม่พอใจในตัวเขา อาจเป็นเพราะพฤติกรรมของเขาไม่ตรงกับความเชื่อ(ผิดๆ)ของคุณ อย่าเก็บเงียบไว้คนเดียว แต่ควรบอกให้เขารู้ อธิบายด้วยเหตุผล ถ้าเขาเห็นดีด้วย เขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองในที่สุด

ผู้ชายที่ขยันทำงาน ไม่เจ้าชู้ ไม่เล่นการพนัน และมีความกตัญญู จัดได้ว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะร่วมชีวิตกันได้แล้ว

ผู้ชายที่ดี ต้องมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ข้อ หากคุณได้พบเข้า อย่าปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด ควรตื๊อให้ถึงที่สุด เพราะคนเหล่านี้ หาได้น้อยกว่า 1 ใน 10 คนเสียอีก
- พร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัว เพียงเขาได้สัมผัสกับบางสิ่งเพียงเล็กน้อย เขาจะทุ่มเทความคิดและเวลาให้พิสูจน์เรื่องนั้นอย่างจริงจัง และถ้าเขาพบว่าสิ่งนั้นมีค่า เขาจะเกิดความศรัทธาไม่เสื่อมคลาย คนเช่นนี้จัดว่าเป็นพ่อพันธุ์ที่ดี เพราะจะให้กำเนิดลูกที่ฉลาด
- เอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นสุภาพบุรุษ เช่น ไม่เอาเปรียบปล่อยให้ผู้หญิงต้องจ่ายเงิน หรือ ทำให้ผู้หญิงสำเร็จความใคร่ก่อน เป็นต้น คุณจะมีชีวิตที่สุขสบายหากได้ร่วมชีวิตกับคนเหล่านี้ เพราะถึงแม้เขาจะลำบาก แต่เขาจะไม่ปล่อยให้คุณลำบากไปด้วย ถ้าคุณไปเจอผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ไม่ค่อยคิดถึงจิตใจของผู้หญิง เช่น กินแล้วหารสอง ปล่อยให้คุณนั่งรถกลับบ้านเอง แล้วล่ะก็ จงหลีกให้ไกล ขนาดเพิ่งรู้จักกันยังแย่ขนาดนี้ ถ้าอยู่ด้วยกันไป จะแย่ขนาดไหน หากขาดความเกรงใจขึ้นมา อาจจะถึงขั้นใช้กำลังชกต่อย ถ้าคิดจะร่วมชีวิตกับคนแบบนี้แล้ว อยู่เป็นโสดเข้าวัดปฎิบัติธรรมยังดีเสียกว่า

คนเจ้าชู้มีสองประเภทคือ คึกคะนองตามวัยตามเพื่อน กับ เจ้าชู้โดยสายเลือด คนที่คึกคะนองตามวัยมักจะเลิกเจ้าชู้หลังจากตกลงที่จะร่วมชีวิตกับใครคนหนึ่ง แต่คนที่น่ากลัวคือ คนเจ้าชู้โดยสายเลือด ให้ดูจากประวัติครอบครัวว่าพ่อหรือปู่ของเขาเจ้าชู้หรือไม่

ผู้ชายที่ซื่อสัตย์ นอกจากจะดูที่ประวัติครอบครัวว่ามีคนหลายใจหรือไม่แล้ว  ควรเลือกผู้ชายที่ฉลาด มีการศึกษาสูง คนพวกนี้จะไม่ค่อยเจ้าชู้ ไม่ถูกกิเลสชักจูงได้ง่าย และมีแนวคิดเสรีนิยม ไม่เหมือนพวกโง่ๆ มักจะหลายใจและมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม

ผู้ชายชวนคุณไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันสองต่อสอง เพราะเขาตั้งใจจะฟันคุณ เหตุที่ต้องไปต่างจังหวัดเพราะคุณนั่งรถกลับเองไม่ได้

สาวประเภทไหนดึงดูดชาย
คนที่ยังไม่รู้จักกันหรือพบกันเพียงผิวเผินจะมองกันที่ภายนอก ขาว อวบ นมโต ตะโพกผาย ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส กระโปรงสั้น กลิ่นตัวหอม คำพูดไพเราะที่ลงท้ายด้วย คะ ขา พร้อมลากเสียงยาว ยิ่งดึงดูดใจ ผู้หญิงเหล่านี้จึงมีผู้ชายมาจีบมาก

ของปลอม เช่น ทำนม ทำจมูก ทำตา สามารถดึงดูดสายตาผู้พบเห็นได้ดี  แต่สำหรับคนใกล้ชิด ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ เกิดความสงสัยตามมา  ถ้าเมื่อใดที่เขาได้พบกับพ่อแม่ญาติพี่น้องของคุณ เขาจะเห็นความแตกต่างจากคนอื่นในบ้าน และเมื่อความจริงเปิดเผย คุณค่าในตัวคุณจะลดลง หรือถึงแม้คุณจะบอกเขาว่าไปทำมา เขาก็ยังไม่ชอบ เพราะ ของปลอมทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหลอก

ถ้าจะเสริมหน้าอก จงทำเพียงเพื่อให้ดูงามไม่ให้ให้ดูใหญ่ อย่าทำให้ผิดธรรมชาติ ทำให้เขาต้องสงสัยว่าของจริงหรือของปลอม  ถ้าเขาสงสัยแล้วคุณค่าในตัวคุณจะลดลง ทรงที่ดูดีคือ ทรงหยดน้ำ ทำจมูกก็เช่นกัน

รอยสัก บางคนอยากสัก เพราะรู้สึกว่าดูแล้วเท่ห์ดี แต่ลืมไปว่า คนที่สักส่วนใหญ่ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน คนที่มีการศึกษามีสังคมที่ดีเห็นเข้า ย่อมมองเห็นกำพืด ว่าผ่านครอบครัวหรือสังคมแบบใดมา ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครอยากรับ เพราะพวกเขาเชื่อว่าคนเหล่านี้โชกโชนเรื่องการใช้ชีวิต หากไปติดต่องานก็ถูกมองอย่างด้อยค่า เมื่ออายุมากขึ้น รอยสักนั้นก็หมดความหมาย อยากลบก็ต้องเสียเงินอีก

สิ่งแรกที่จะดึงผู้ชายเข้ามาหาคุณคือภายนอก ใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ทาปากสีแดง แก้มสีชมพู ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น กลิ่นตัวหอม แต่งหน้าบางๆ ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัด เหมือนพวกหางเครื่องหรือนักร้องลูกทุ่ง จะดึงดูดผู้ชายให้วิ่งมาหาคุณ โดยเฉพาะเสื้อชั้นในสีแดง จะทำให้ผู้ชายใจสั่นไปตามๆกัน เพราะ ผู้ชายชอบสิ่งที่แตกต่างจากตัวเขา ผู้ชายส่วนใหญ่แต่งตัวด้วยสีจืดๆอยู่แล้ว หญิงที่แต่งตัวจืดๆมักถูกมองข้าม

ผู้ชายทุกคนดูผู้หญิงที่หน้าตาก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าคุณแข่งขันกับคนอื่นได้ คุณมีสิทธิ์ได้ผู้ชายที่หน้าตาดีฐานะดี เพราะผู้ชายเหล่านี้มีตัวเลือกมาก  แต่ถ้าคุณหน้าตาไม่ดี คุณควรลดสเป็คของชายในฝันลงบ้าง คือให้เปิดใจให้กับผู้ชายที่หน้าตาและฐานะปานกลาง มีตัวเลือกน้อย อย่าเสี่ยงไปยุ่งกับผู้ชายที่มีตัวเลือกมาก จะเสียเวลาเปล่าๆ คุณสามารถประเมินความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการถามเขาว่า เคยเจอผู้หญิงสวยแค่ไหน นิสัยอย่างไร ถ้าคำตอบว่ามีสวยกว่าคุณ นิสัยดีกว่าคุณ ขอให้คุณทำใจได้เลยว่าคุณอาจไม่ถูกจัดอยู่ในตัวเลือกของเขา

สรรพนามเรียกผู้ชายให้ใช้คำว่า "คุณ" จะทำให้เขารู้สึกว่าได้รับการให้เกียรติมากที่สุด ไม่ว่าจะเพิ่งรู้จักกัน หรือ อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ยังฟังดูดีเสมอ การเรียก"พี่"จะไม่ใกล้ชิดเพราะเราเรียกทุกคนในชีวิตประจำวันว่าพี่อยู่แล้ว การเรียก"เธอ"ฟังดูเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน การเรียก"ตัวเอง"ถึงฟังดูใกล้ชิดมาก แต่ตลกไปหน่อยสำหรับคนเพิ่งรู้จักกัน ถึงแม้ว่าอยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังฟังดูแต๋วไปนิด จึงควรใช้เป็นบางเวลาเท่านั้น ส่วนสรรพนามแทนตนเองสำหรับผู้หญิง อาจเรียกชื่อตนเอง หรือใช้คำว่า "เค้า"

แต่หลังจากรู้จักกันแล้ว ต่อให้สวยรวยฉลาดเก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่ดูแลบ้าน ไม่ดูแลผัว คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบ เพราะไม่อยากกลายเป็นคนใช้ สิ่งที่ดึงดูดใจชายคือ

1. ไม่ปล่อยให้โทรม ต้องรู้จักแต่งตัว ถือคติ "ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่อร่อย แต่กินบ่อยๆก็น่าเบื่อ"

2. เรื่องบนเตียง ภรรยาที่ดีเป็นโสเภณีบนเตียง เป็นฝ่ายรุกบ้างในบางครั้ง เป็นฝ่ายรับพร้อมเล่นตัวบ้างเล็กน้อยในบางครั้ง ดูตัวอย่างลีลาบนเตียงดีๆได้จากในหนังโป๊ เซ็กส์ที่มีคุณภาพต้องแสดงอารมณ์ร่วม เสียงร้องทำให้ผู้ชายติดใจ คำพูดที่ทำให้ฝ่ายชายมีอารมณ์ คือคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกว่า เขาสามารถทำให้คุณมีความสุข เช่นการที่คุณพูดว่า เสียว หรือ มีความสุขจังเลย ฯลฯ  ส่วนเซ็กส์เสื่อม จะทำให้คุณกลายเป็นภาพความทรงจำอันเลวร้าย สำหรับเขาในภายหลัง ได้แก่คำพูดที่ทำให้เขาต้องหยุดคิดหรือรู้สึกว่าคุณหมดอารมณ์ เช่น ต้องการแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรือ, ใส่เข้าไปหรือยัง, เสร็จหรือยัง, ไม่ค่อยมันส์เลย ฯลฯ นิตยสารที่สอนเรื่องเหล่านี้เช่น คลีโอ ส่วนหนังสือที่สอนเรื่องเหล่านี้ คือหนังสือเปิดใจชาย เช่น ความรู้สึกของผู้ชายมีเมียน้อย เป็นต้น ผู้ชายแสดงความรักผ่านทางเซ็กส์ ดังนั้นถ้าเขาต้องการมีเซ็กส์กับคุณ จงดีใจได้ว่าเขายังมีความรู้สึกที่ดีต่อคุณ แต่ความรู้สึกผูกพันที่แท้จริง จะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาพอใจในเซ็กส์ครั้งนั้น ดั่งคำโบราณว่า ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน สมานได้ด้วยความสัมพันธ์ทางเนื้อหนัง  ถ้าคุณลีลาไม่ดี ความรู้สึกดีๆที่เขามีให้คุณย่อมไม่เกิดขึ้น และนี่คือสาเหตุหนึ่งของการฟันแล้วทิ้ง

3. นิสัย ผู้หญิงต่อให้สวยแค่ไหน ถ้านิสัยไม่ดี ก็เปรียบเสมือนดอกไม้พลาสติกที่มีแต่รูปสวย ถูกดมเสร็จแล้วก็ถูกทิ้งเพราะไม่มีกลิ่นหอม กลิ่นหอมคือมารยาท ลักษณะของผู้หญิงที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูด ได้แก่

มีความรักให้กับทุกคน ผู้หญิงเป็นตัวแทนของความรัก  ไม่ใช่รักเฉพาะเจาะจงแต่คู่ของตนเอง แต่ทำร้ายคนอื่น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่นางสาวไทย แต่ ภาพที่คุณแสดงความรักต่อทุกๆคน จะทำให้เขาประทับใจ อยากเข้ามาคุยด้วย เพราะในส่วนลึกๆแล้วพวกเขาเชื่อว่า ความรักต่อคนใกล้ชิด เป็นความรักจอมปลอมหรือมีผลประโยชน์แอบแฝง เมื่อใดก็ตามที่เลิกรากันไป ผู้หญิงก็จะเลิกรักเขา ต่างจากความรักที่มีให้กับทุกคน เป็นความรักที่ออกมาจากใจ เป็นอมตะ

ศรัทธา เชื่อในความคิดของเขา ผู้ชายแสวงหาคนที่จะมาบอกเขาว่า "ฉันเชื่อใจคุณ" และ ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของเขา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ถึงแม้ว่า การกระทำของเขาในขณะนั้น อาจดูไม่เข้าท่า หรือ ติดอยู่กับความคิดแคบๆของตนเอง แต่คำพูดนี้ฟังดูอบอุ่นยิ่งนัก ผู้ชายมักไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใด จนกว่าจะมีผู้หญิงสักคนมาเชื่อมั่นในตัวเขาเสียก่อน เหมือนที่เราเคยฟังในเพลง ไม่หวั่นแม้วันมามาก ของ วงซิลลี่ฟูล คนทั่วไปอาจมองว่าคุณโง่ ที่พูดว่าคุณเชื่อคำพูดของเขาคนเดียว  แต่เขาไม่เคยคิดว่าคุณโง่เลย เขากลับคิดว่าคุณเป็นคนที่มั่นคง ชายที่แข็งแกร่งที่สุดมีสตรีผู้มีศรัทธามั่นคงอยู่เบื้องหลัง เมื่อใดก็ตามที่เขารับคุณเข้ามาอยู่ในใจแล้ว  ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ไกลแสนไกล หรือห่างกันเพียงใด หรือพบผู้หญิงอีกสักร้อยคนพันคน แต่คุณจะไม่ต้องกังวลเลย เพราะ หัวใจของเขายังคงอยู่กับคุณ เขาจะกลับมาหาคุณในที่สุด เพราะผู้หญิงทั่วไปไม่รู้จักคำว่าศรัทธา ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัด กับเขาสองต่อสอง ก็ไม่ควรจะพาเพื่อนไปเป็นไม้กันหมา เพราะจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ไว้ใจเขา ซึ่งถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาจริงๆ ก็ยังไม่ควรจะไปกับเขา เหมือนเพลงที่ว่า "ถ้าจะมาไม่มาทั้งใจ กลับไปซะดีกว่า..." ควรรอจนกว่าคุณจะศึกษาเขาให้แน่ใจเสียก่อน จึงค่อยตัดสินใจไปกับเขา แต่ถ้ากลัวเขาจะล่วงเกิน ก็ควรจะตกลงกับเขาตรงๆ ให้สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกิน ซึ่งแน่นอนว่า การสัญญาจะใช้ได้ผลเฉพาะกับผู้ชายที่รักษาสัญญาเท่านั้น คุณสามารถใช้วิธีนี้ลองใจ ว่าเขาเชื่อใจได้หรือไม่ รักษาคำพูดหรือไม่ ด้วยการตกลงกับเขาว่า ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เขาจะไม่ทำอะไรเกินเลย ถ้าเขารับปาก คุณก็วางแผนสำรองป้องกันตัวอีกชั้น ด้วยการเรียกเพื่อนไปพักในละแวกใกล้เคียง เผื่อเขาผิดคำพูด จะได้โทรเรียกเพื่อนมาช่วย ซึ่งถ้าเขาผิดคำพูด คุณก็ไม่ควรคบกับเขาอีก

ตัวอย่างที่น่าประทับใจ ของความรัก และ ความศรัทธา ดูได้จาก นางเอกในภาพยนต์เรื่อง Lord of the Ring
มีปัญญา ตามทันเรื่องที่เขาพูดหรือคิด โดยทั่วไปแล้วคนที่จะตามกันทันมักมีระดับการศึกษาใกล้เคียงกัน

รู้จักกาละเทศะ  คนที่มีการศึกษามีความรู้สูงอาจไม่รู้จักกาละเทศะ ผู้หญิงที่ยิ่งมีการศึกษาสูงขึ้น มีโอกาสประสบความล้มเหลวในชีวิตครอบครัวและการงานได้ง่ายขึ้น เพราะ มักยึดติดอยู่กับปริญญา  ทำให้เปลี่ยนจากที่เคยเป็นคนน่ารักอ่อนโยนในครั้งที่มีการศึกษาน้อย กลายเป็นคนหยิ่งยะโส อีโก้จัด ถือตนเองเป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่โลกนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอยังไม่รู้ เช่น ไม่รู้ว่าการศึกษากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นคนละเรื่องกัน  คำว่ากาละเทศะครอบคลุมทุกอริยาบถในชีวิต ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า รู้งาน คือสิ่งทำให้ราชินีเหนือกว่าหญิงชาวบ้าน ทำให้แม่ม่ายเหนือกว่าหญิงโสด คือ รู้ว่าเวลาใดควรขอ เวลาใดควรให้ เวลาใดควรฟัง เวลาใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด สิ่งใดควรอธิบายให้ละเอียด เป็นต้น หลักการง่ายๆของความสัมพันธ์ที่ดีคือ อย่าให้เขาต้องลำบากใจเพื่อคุณ เพราะมนุษย์รักสุขหน่ายทุกข์ ถ้าคุณทำให้เขาต้องเป็นทุกข์ เขาจะเกิดความเบื่อหน่ายในตัวคุณ ไม่มีใครฉลาดมาแต่กำเนิด แต่คุณสามารถพัฒนาตนเองได้ด้วยการอ่านหนังสือมากๆ โดยเฉพาะพวกหนังสือ Howto ที่วางขายตามท้องตลาด ที่ช่วยให้เข้าใจผู้ชายมากขึ้น และพัฒนาหน้าที่ความเป็นผู้หญิงให้สมบูรณ์ ผู้หญิงถึงแม้จะไม่สวย แต่ถ้ามีความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิตคู่ เข้าใจผู้ชาย  ย่อมมีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงสวยแต่โง่  ข้อควรระวังคือ หากต้องการเข้าใจผู้ชาย ควรอ่านหนังสือที่ผู้ชายเขียน เพราะผู้ชายจะเข้าใจตนเองได้ดีกว่า และควรระวังหนังสือที่ผู้หญิงเขียน มักจะมีอารมณ์และอัตตามาเจือปนสูงจนทำให้มุมมองผิดเพี้ยนไป ถ้าต้องการอ่านหนังสือที่ผู้หญิงเขียน ควรเป็นหนังสือทีี่เขียนขึ้นจากประสบการณ์และเรื่องจริง

ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ หรือผู้หญิงอันเป็นที่รัก มักจะแสดงความคิดเห็นในลักษณะของคำถาม เคารพในคำตอบของเขา และไม่เสนอคำแนะนำครอบงำฝ่ายชาย ควรปล่อยให้เขาเป็นคนคิดและตัดสินใจ ทั้งนี้เพราะ ธรรมชาติของผู้หญิง เช่น ความอ่อนแอทางสังคม ก่อให้เกิดความคิดปกป้องตนเอง กลัวถูกเอาเปรียบ ทำให้มุมมองคับแคบ  คิดถึงตนเองและครอบครัวโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปจะเป็นการเอาเปรียบคนรอบข้าง ชอบพึ่งไสยศาสตร์ หมอดู ประหยัดจนขี้เหนียว มักใหญ่ไฝ่สูงโดยไม่มองความเป็นจริงทางสังคมสูงสุด ที่ว่ามนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และ ต้องอาศัยหลักการในการดำเนินชีวิต ผลที่ตามมาคือ ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือสามีที่ถูกผู้หญิงเป่าหูอยู่บ่อยๆ มักจะประสบความล้มเหลวในชีวิต มีพฤติกรรมประหลาด เช่น ประหยัดเกินไปจนทำให้ต้องเสียเวลาอยู่กับเรื่องเล็กน้อย ชอบเข้าวัด ชอบพึ่งพิธีกรรม แต่ไม่รู้จักธรรมะ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ล้มเหลว ล้วนถูกเมียบงการ เช่น จอมพลถนอม ซูฮาโตร์ มาร์กอส อดีตนายกทักษิณ จูเลียส ซีซ่าร์ ฯลฯ ผู้หญิงที่น่ารักอาจคอยเตือนสติเขาบ้างเวลาที่เขาประพฤติตัวไม่เหมาะสม แต่ไม่ต้องเสนอแนะว่าให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผลลัพธ์แตกต่างกันเป็นขาวกับดำระหว่างคำว่า "คุณพูดมากเกินไปหรือเปล่า" กับ "คุณควรหยุดพูดได้แล้ว" ประโยคแรกทำให้เขาคิดต่อได้ด้วยตนเอง ส่วนประโยคหลังทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม

ทำกับข้าวเก่ง โบราณว่า วิชาเสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนวันตาย ถ้าคิดจะซื้อข้าวถุงแกงถุงมาให้เขากิน เขาไปซื้อเองไม่ต้องพึ่งคุณก็ได้

เป็นผู้ฟังที่ดี ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ได้จากการพูดคุยเปิดเผยใจกัน การฟังคือการทำหน้าที่เป็นที่พึ่งทางใจ ในยามที่เขาท้อแท้  จริงอยู่ว่าผู้หญิงต้องการพูดระบายอารมณ์ และควรพูดให้มากๆด้วย เพราะ เรื่องเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งความเจ็บปวดลึกซึ้งทางอารมณ์  ถ้าไม่พูดออกมาจะทำให้ฝ่ายชายไม่รู้ว่าผู้หญิงรู้สึกอย่างไร คิดอะไรอยู่ เกิดอะไรขึ้น ตนเองทำผิดอะไร แต่ควรพูดให้ถูกเวลา อย่าพูดเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ฝ่ายชายเครียดจากงาน เพราะ เวลานั้นเขาต้องการคนรับฟัง ดังนั้น ก่อนจะพูด ควรเปิดโอกาสให้เขาเป็นฝ่ายพูดก่อน โดยถามเขาว่า มีสิ่งใดคับข้องใจหรือไม่ เพราะ ถ้าเขาเครียดมาแล้ว ยังต้องให้เขามาฟังคุณพูด เขาจะยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ความเครียดสะสมจะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในที่สุด ที่จริงแล้ว ไม่มีผู้ชายคนไหน อยากฟังผู้หญิงพูด เพราะผู้หญิงชอบพูดแต่เรื่องไร้สาระ ขนาดผู้หญิงด้วยกันเองยังเบื่อที่จะคุยกัน เพราะเห็นว่าไร้สาระ

พูดง่าย ลุยไหนลุยกัน แต่อย่าบ่น อย่าสร้างสถานการณ์ในเวลาคับขัน ควรเงียบไว้ เช่น อย่ากรีดร้องหรือโวยวายเวลาเกิดอุบัติเหตุรถเสียหรือเฉี่ยวชน เพราะ จะกดดันให้เขาตัดสินใจผิดพลาด การลุยแล้วเจ็บตัว ย่อมดีกว่าที่จะปฎิเสธว่า ไม่น่าจะไปไม่ไหว

อ้อนเก่ง ไม่หยิ่ง ไม่ถือศักดิ์ศรี ถือคติ "ใดๆในโลกสร้างด้วยใจ" อาศัยความรักความเข้าใจเห็นใจเป็นที่ตั้ง ผู้หญิงประเภทนี้ มักจะไม่ต้องทำงานหาเงินด้วยตนเอง เพราะ มีผู้ชายคอยเลี้ยง  แต่ถ้าทำให้เขาไม่สบายใจ เช่น ชอบเถียง เขาคงไม่อยากเอามาเลี้ยงให้ลำบากใจ

ขอให้ดูตัวอย่างของผู้ใหญ่ซึ่งมักจะรักเด็กๆ ยิ่งเด็กตัวเล็กๆอุ้มได้ยิ่งชอบ ก็เพราะเราคิดว่าเราสามารถบังคับเด็กๆได้ เนื่องจากเด็กตัวเล็กกว่าเรา และโง่กว่าเรา เช่นเดียวกับผู้ชายมองผู้หญิง ดังนั้นจงทำตัวเป็นคนว่าง่าย และ โง่ จะมีแต่คนรัก แต่อย่าโง่จนต้องให้เขาลำบาก คิดแทนทำแทน

สาเหตุของความสัมพันธ์ร้าวฉาน
มนุษย์ไม่ชอบทนอยู่กับความทุกข์ ถ้าคุณทำให้เขารู้สึกทุกข์กายหรือทุกข์ใจ ความรู้สึกดีๆจะลดลงเรื่อยๆ แล้่วเขาจะตีจากคุณไปในไม่ช้า

นิสัยสำคัญที่สุดของผู้หญิงคือจะต้อง ว่าง่ายสอนง่าย เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เราจึงต้องยอมรับคำต่อว่าและสั่งสอน ผู้หญิงที่โดนตำหนิแล้วเถียงกลับ หรือถูกสอนแล้วยังดื้อ ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง บางคนสอนไม่ได้ นิสัยเหล่านี้จะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเหนื่อย พาเข้ามาร่วมชีวิตด้วย

ความสัมพันธ์ร้าวฉาน เกิดจากสาเหตุหลัก คือ ไม่รู้จักกาละเทศะ หรือ เรียกง่ายๆว่า ไร้มารยาท ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับหญิงสาวที่อ่อนต่อโลก ถึงแม้จะมีความรู้สูงแต่มักจะประสบความล้มเหลวในชีวิตคู่ เรียกว่า มีความรู้แต่ไม่มีปัญญา คือไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ

นางสนมที่จักรพรรดิ์โปรดปราน รู้จักขอในเวลาที่เหมาะสม ผู้หญิงที่ขอโดยไม่ดูโอกาส ต้องการความรักโดยไม่เลือกเวลา
จะถูกเบื่อหน่ายในที่สุด เวลาที่เขากำลังวุ่นหรือเหนื่อยกับงาน กลับต้องการให้เขาอยู่ด้วยคอยเอาใจ  คิดฟุ้งซ่านว่าเขาเห็นงานสำคัญกว่าคุณ แต่สำหรับผู้ชายเขาไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย เขาจะภูมิใจที่ตนเองทำงานได้ผลออกมาดี และหวังว่าผู้หญิงจะมองเห็นคุณค่าของเขาเพิ่มขึ้นจากตรงนั้น อย่างน้อยควรร่วมยินดีไปกับเขา แต่ผู้หญิงกลับไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย  กลับมองคุณค่าของการเอาใจใส่จากเขาสำคัญกว่า ผู้หญิงบางคนถึงกลับเปรียบว่าผู้ชายเลวกว่าหมา เพราะหมาเวลาเจอเจ้าของมันยังกระดิกหางวิ่งเข้ามาประจบ แต่ผู้ชายกลับไม่ค่อยแสดงความสนใจในตัวเธอเท่าที่ควร ผู้หญิงจึงมักจะเซ้าซี้ขอคำยืนยันจากเขาว่า ยังรักกันอยู่ไม่จืดจางอยู่เป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้รับคำตอบแล้ว ยังทำให้เขารู้สึกรำคาญ ไม่ใช่เพราะเขาไม่จงรักภักดี แต่เป็นเพราะเขาจำได้ว่าเคยพูดไปแล้วและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดซ้ำ  บางคนขอให้เขาเดินทางไปรับไปส่งในเรื่องธุระส่วนตัวของตนเอง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาสามารถไปรับส่งคุณได้เมื่อเขามีเวลาว่าง แต่ไม่ใช่ทุกเวลา ผู้ชายบางคนต้องไปรับแฟนตอนเย็น และไปส่งตอนเช้า ต้องพาไปธุระวันหยุด ทำให้เขาเสียเวลาเสียงาน หรือเวลาที่เขากำลังติดธุระ แล้วยังชวนเขาไปพบ ชวนเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ บางคนชอบพูดเรื่องไร้สาระของตนเอง ฝ่ายชายเครียดจากงานมากลับต้องมาฟังเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก บางคนชอบทวงสัญญา ตั้งกำหนดเวลาให้เขา บางเรื่องเขาอาจทำไม่ได้ในทันที แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำ การจะดูว่าเขาเป็นคนรักษาสัญญาหรือไม่ให้ดูหลายๆเรื่อง หากพูดแล้วไม่เคยทำเลยสักเรื่องจึงค่อยสรุปว่าเป็นอย่างนั้น บางครั้งผู้ชายไม่กล้าสัญญาเพราะ คำพูดของเขามีความหมาย เมื่อพูดออกไปแล้วต้องทำให้ได้ แต่เมื่อยังไม่แน่ใจ จึงยังไม่กล้าพูด  ทางสายกลางคือ  เวลาที่เขาไม่สะดวก คุณควรทำธุระส่วนตัวของตนด้วยตนเองบ้าง พึ่งเขาบ้างเวลาที่เขาสะดวก เพราะ ถ้าคุณพึ่งตนเองอย่างเดียวจะกลายเป็นคนอีโก้จัดเกินไป และถ้าคุณพึ่งเขาตลอดเวลา เขาจะเบื่อหน่ายในที่สุด  การพึ่งเขาให้ใช้วิธีพูดให้เขาคิดได้และอาสาขึ้นมาเอง   และอย่าอารมณ์เสียหากเขาไม่อาสาเพราะเขาอาจมีธุระอย่างอื่น  และถ้าเขาอาสาแล้ว จงทำให้เขารู้สึกว่าเป็นฮีโร่ ผู้ชายเกลียดการถูกดูถูกว่าทำเรื่องไร้สาระ (แต่ถ้าเขาไม่เคยมีน้ำใจทำอะไรให้เลย คงต้องพิจารณาคนอื่นที่ดีกว่านี้)  และหญิงที่เอาแต่ใจตัวเองไม่มีใครเอาใจได้ สุดท้ายคงจะต้องลงเอยกับทอม เพราะทอมเอาใจเก่ง นี่คือเหตุผลหลักของหญิงรักหญิง

เอาแต่ใจตนเอง ฟังได้แต่เรื่่องตลกไร้สาระ ฟังเรื่อยซีเรียสไม่ได้ ต้องให้เขาคอยฟังคุณระบายอารมณ์อยู่เสมอ แต่เมื่อเขามีปัญหาคับข้องใจ หรือมีเรื่องไม่สบายใจ เขากลับไม่มีโอกาสได้ระบายให้คุณฟัง เพราะคุณไม่ฟังเขา จริงอยู่ว่า เมื่อคบกันใหม่ๆ เขาอาจจะคอยรับฟังปัญหาของคุณ ทำแม้แต่ป้อนข้าวป้อนน้ำ แต่เขาทำเช่นนั้น เพราะเขาต้องการใกล้ชิดคุณ และหวังว่า สักวันหนึ่งคุณจะทำเช่่นนั้นตอบแทนเขา แต่ถ้าคุณไม่รีบตอบแทนเขา เขาก็จะเบื่อคุณในที่สุด ตรงกันข้าม ถ้าคุณตอบแทนเขา เขาก็จะตอบแทนคุณอีกในภายหลัง

เวลาที่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งกระทบกับทั้ง 2 คน เช่น ไฟใหม้บ้าน ผู้หญิงที่พูดถึงแต่ปัญหาของตัวเอง จะทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว ส่วนผู้หญิงที่พยายามถามถึงปัญหาเจ็บปวด ร้อนหนาวของฝ่ายชายก่อน ย่อมถูกมองว่าเป็นคนจิตใจดี  จริงอยู่ว่า Lady first แต่นั่นใช้กับสถานการณ์ปกติเท่านั้น เวลาคับขัน ผู้ชายก็พร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องแสดงให้เขาเห็นก่อนว่า คุณไม่ใช่คนที่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ไม่เช่นนั้นแล้ว เมื่อเขาช่วยเสร็จ เขาจะลาจากไป ดังนั้น ควรจะพูดถึงปัญหาของเขาก่อน แล้วค่อยพูดถึงปัญหาของตนเอง แต่อย่าพูดเชิงขอ เพราะเขาจะรู้สึกว่าคุณมารบกวนเขา ให้ใช้วิธีพูดขึ้นลอยๆว่าคุณเจอปัญหาแบบนี้ แล้วให้เขาเก็บไปคิด เขาจะหาทางช่วยคุณเองในไม่ช้า

ผู้หญิงที่มักไม่พูดตรงๆ แต่พูดอ้อมๆหรือไม่พูด เพราะคิดไปเองว่า เขาน่าจะเข้าใจด้วยตนเอง  แต่ในความเป็นจริง ผู้ชายคิดแบบตรงไปตรงมา คิดอ้อมๆไม่เป็น เขาจึงไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามสื่อความหมาย และเมื่อเขาไม่เข้าใจ เขาอาจคิดไปเองจนเกิดความรำคาญใจ และ อาจหาเรื่องทะเลาะกับคุณในที่สุด แต่เหตุผลที่จริงแล้วเป็น เพราะเขาต้องการคำตอบที่ละเอียดสมเหตุผลเท่านั้นเอง เช่น คุณอาจชอบในสิ่งที่เขาเกลียด หรือ ไม่สนใจในสิ่งที่เขาชอบ แต่คุณต้องมีเหตุผลมาสนับสนุนว่าไม่ชอบเพราะอะไร มิเช่นนั้น เขาจะเข้าใจว่าคุณใช้อารมณ์มาตัดสิน

กำกวม ผู้หญิงส่วนใหญ่มักทำให้ผู้ชายไม่ไว้ใจ โดยไม่รู้ตัว เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ถึงแม้ตนเองจะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นแค่เพื่อนไม่ได้มีอะไรเกินเลย คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้กระจ่าง  แต่ผู้ชายไม่เคยคิดเช่นนั้น ฝ่ายชายมักคิดมาก ระแวงว่าผู้หญิงนอกใจ  แต่เขาไม่กล้าถามตรงๆ เพราะเขากลัวเสียศักดิ์ศรี หาว่าเขาจุกจิกเกินไป ถ้าเขาแสดงกริยาที่ไม่สมควร  เช่น โทรเช็ค ตามไปหึงหวง ไม่ใช่เพราะเขาอยากทำ แต่การที่เขาทำเช่นนั้น ถือว่าสถานการณ์ความสัมพันธ์เข้าขั้นอันตราย เพราะ  ลูกผู้ชายเขาไม่พูดมากแต่ทำจริง หากเขาต้องลงมือทำเช่นนั้นแล้ว เขาจะลงมือหนีจากปัญหา ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น บอกเลิก หรือถ้าร่วมชีวิตกันแล้วเลิกกันไม่ได้ อาจถึงขั้นใช้กำลังทำร้ายผู้หญิง ผู้หญิงที่น่ารักจึงทำตัวเป็นคนที่เรียบร้อย ซื่อสัตย์ ไม่ควรเดินทางไปกับชายอื่น หรือ ถ้าจำเป็นต้องเกี่ยวข้อง ควรมีหลักฐานและคำอธิบายที่ชัดเจน บอกเขาก่อนไป บอกระหว่างเดินทาง และ บอกหลังจากกลับมาแล้ว ถ้าคุณไม่บอกก่อนไป แต่มาบอกเขาทีหลังเพียงครั้งเดียว จะทำให้เขาเสียความรู้สึกได้เช่นกัน เช่นเวลาที่คุณไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน  เมื่อกลับถึงบ้านแล้วควรโทรไปบอกเขา ถึงแม้ว่าจะดึกมากก็ตาม ไม่ควรหายไปเลย มิฉะนั้น จะทำให้เขาระแวงเพราะเขาไม่ได้ไปกับคุณ เป็นต้น และ อย่าลองใจว่าเขายังรักคุณอยู่หรือไม่โดยแกล้งทำเป็นคบผู้ชายอื่น วิธีนี้จะไม่เคยได้ผล กลับจะทำให้เขาระแวงมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณจำเป็นต้องไปกับชายอื่นสองต่อสอง ควรจะขอให้เขาช่วยหาคนที่เขาไว้ใจไปเป็นเพื่อนคุณ หรือให้ไปช่วยสะกดรอยตาม โดยอย่าบอกให้เขารู้ว่า กลัวเขาไม่ไว้ใจ แต่ให้อ้างว่า เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง ถ้าถึงขนาดต้องเข้าไปอยู่ในห้องกันสองต่อสอง อาจจะให้สายสืบแอบเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า ฯลฯ

อีโก้สูง ดื้อเงียบ หรือ ปากไว ขอเถียงไว้ก่อน โดยไม่ทันคิดอย่างรอบคอบว่าถูกหรือผิดหรือมีเหตุผลหรือไม่ การพูดคำเถียงคำมักชวนให้ทะเลาะกัน ถ้าร่วมชีวิตกันแล้ว อาจทะเลาะกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ซึ่งธรรมชาติของผู้หญิงที่อ่อนแอกว่า ถ้าใช้กำลัง ก็ไม่มีทางชนะเขาอยู่ดี หรือ ผู้หญิงบางคนดื้อหัวแข็ง ฟังแต่ไม่เชื่อไม่ทำ ผลคือชีวิตคู่ที่ต้องแยกกันอยู่ ผู้หญิงเก่ง หยิ่ง มีศักดิ์ศรีมาก สามารถทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง มักจะต้องอยู่เป็นโสด ต้องทำด้วยตนเองไปตลอดชีวิต เช่น ซื้อรถมาขับ ทำให้ผู้ชายรู้สึกอับอายที่ต้องนำรถราคาถูกกว่าไปรับ  หรือ ไปไหนมาไหนด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าเขาอาสาจะไปรับไปส่ง แต่ไม่ยอมรอ เพราะกลัวไปไม่ทันเวลา เป็นต้น ความเก่งเหล่านี้ ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสำคัญ  ถึงแม้ผู้ชายจะชอบผู้หญิงฉลาด แต่เกลียดผู้หญิงที่เก่งกว่า เพราะทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ลำบาก จนกระทั่งบางครั้งอาจเกิดผิดพลาดขึ้น เพราะ ผู้หญิงถึงแม้จะมีความรู้มาก แต่อาจขาดมุมมองแบบองค์รวมทั้งระบบ ดังนั้น เป็นผู้หญิงควรยอมเขา สิ่งที่ควรทำคือ ถ้ามีสิ่งใดเก่งกว่า ให้ใช้สิ่งนั้นช่วยเหลือเขาให้เกิดประโยชน์อย่างเงียบๆ  แสดงความคิดเห็นในลักษณะของคำถามหรือให้ข้อมูลบางส่วน เพื่อให้เขาคิดต่อด้วยตนเอง ไม่ใช่คำแนะนำ คำสั่ง หรือคำโต้แย้ง ที่มีคำตอบอยู่ในตัว หลังจากตั้งคำถามแล้ว ควรสนใจฟังคำตอบของเขา แต่ไม่ควรยึดติดกับผลลัพธ์ที่จะตามมา ไม่ว่าผลที่ตามมาจะดีหรือร้าย  หรือไม่ตรงกับผลลัพธ์ในใจของคุณ หากคุณมอบอำนาจให้เขาเป็นผู้นำแล้ว จงเชื่อในความคิดของเขา  ความเชื่อใจของคุณจะทำให้เขาเติบโตขึ้น มีความเป็นผู้นำสูงขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะตัดสินใจผิด แต่ผิดเป็นครูที่จะช่วยให้เขาคิดได้และปรับปรุงตนเอง สำหรับ สิ่งใดที่เขาเตือน และคุณเห็นว่าเหมาะสม ควรนำมาปรับปรุง แต่ถ้าสิ่งใดที่คุณเห็นว่าเป็นคำแนะนำที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรดื้อเงียบ หรือ เถียงกลับ เพราะเป็นการแสดงอีโก้  แต่ควรตั้งคำถามให้เขาคิดต่อจนกระทั่งเขายอมจำนนต่อเหตุผลว่าคำแนะนำของเขานั้นยังมีจุดโหว่ เช่น เขาแนะนำให้คุณไปใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง แต่คุณไม่เชื่อ คุณควรถามเขากลับว่า ฉันต้องการฟังก์ชั่นหนึ่งที่โทรศัพท์ยี่ห้อนั้นไม่มี จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร เป็นต้น ยิ่งเวลาเขาตักเตือน หรือ พูดตลกแต่ทำให้คุณเสียหน้า ถ้าคุณย้อนกลับไปด้วยคำพูดคล้ายๆกัน จะทำให้เขารู้สึกได้ว่าคุณอีโก้สูง คงใช้ชีวิตร่วมกันลำบาก เช่น ถ้าเขาเตือนว่าคุณปากเหม็น คุณไม่ควรย้อนกลับไปว่าขอให้เขาไปตรวจฟันด้วย แต่ควรจะน้อมรับไว้ด้วยดี  หรือถ้าเขาเรียกบอกว่าคุณเหมือนทอม คุณไม่ควรจะไปย้อนว่าเขาเหมือนกะเทย แต่ควรจะแสดงพฤติกรรมตอบโต้อย่างอื่นแทน เช่น แกลังทำเป็นงอน หรือแกล้งทำเป็นน้อยใจ โดยบอกให้เขารู้ด้วยว่าคุณกำลังคิดอย่างไร

ปากพล่อย นำเรื่องส่วนตัวของผู้ชายไปเล่าให้เพื่อนฟัง หรือฟ้องคนใกล้ชิด แถมเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นยังชอบปรึกษาและเชื่อฟังคำแนะนำของคนอื่นที่ไม่รู้จริง มากกว่าที่จะสอบถามเรื่องราวจากเขาโดยตรง หรือ อ้างอิงจากตำรา

รำเริบ พูดดูถูก เช่น บอกให้เขาหยุดพูด ทั้งๆที่คุณยังฟังไม่จบ ฯลฯ ผู้หญิงมักจะหาข้อสรุปให้แก่พฤติกรรมของฝ่ายชาย โดยอ้างอิงจากปมด้อยของตนเอง สิ่งที่พูดกันติดปาก คือ กล่าวหาว่า เขานิสัยเหมือนเด็กบ้าง เหมือนผู้หญิงบ้าง เช่น พูดว่าเขาเป็นคนโลเล ในเวลาที่เขาขับรถแล้วไม่รู้จะไปทางไหน ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงของควมลังเลคือ เขาไม่ชำนาญเส้นทาง และต้องหยุดคิดหรือถามทางเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ต้องเสียเวลาพาคุณไปผิดเส้นทาง แท้จริงแล้ว คนที่ลังเลคือคนที่มั่นคง ตัดสินใจแล้วไม่เปลี่ยน จึงต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน แต่การพูดที่คุณผู้หญิงพูดเช่นนั้น แสดงถึง ความไม่เข้าใจในธรรมชาติพื้นฐานของผู้ชาย ที่ว่า สิ่งใดที่ผู้ชายทำลงไปมักจะมีเหตุผล ซึ่งเขาอาจไม่ได้พูดออกมา เพราะธรรมชาติของผู้ชายคิดก่อนพูด ผลคือคำพูดของคุณแสดงความโง่ออกมาให้เขาเห็น ทำให้เขารู้ึสึกเบื่อหน่าย  สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณควรทำคือ สอบถามเหตุผลของการกระทำของเขาอยู่เสมอ อย่าด่วนสรุป ด้วยคำพูดเหยียดหยามเขาเป็นอันขาด เพราะความแตกต่างทางเพศจะทำให้คุณไม่อาจเข้าใจผู้ชายได้อย่างแท้จริง ผู้หญิงส่วนใหญ่ เมื่อรู้สึกว่าตนเองมีสิ่งใดเหนือกว่า มักจะพูดข่มเขาในเรื่องนั้น  เช่น ตนเองทำงานหาเงินได้มากกว่า หรือ ตำแหน่งหน้าที่การงานดีกว่า ซึ่งผู้ชายยอมรับไม่ได้ เพราะ ธรรมชาติผู้ชายมีศักดิ์ศรีมาก ดังนั้น  ถ้ามีสิ่งใดเหนือกว่าเขา อย่าโอ้อวดหรือทวงบุญคุณ

ปากมาก ขี้บ่น พูดมากเวลาอยู่ด้วยกัน จุกจิกในเรื่องเล็กน้อย ผู้หญิงมักสนใจกับเรื่องเล็กน้อยมากเกินไป ในขณะที่ผู้ชายแทบจะไม่คิดถึงเรื่องเหล่านี้เลย คุณจะทำให้เขารำคาญ ถ้าคุณพูดถึงเรื่องเหล่านี้  ผลงานวิจัยพบว่าผู้หญิงพูดมากกว่าผู้ชายถึงสามเท่า เพราะ การพูดทำให้สมอง หลั่งสารเคมีที่ทำให้ผู้หญิงเคลิบเคลิ้ม แบบเดียวกับความรู้สึกของคนเสพเฮโรอีน การพูดมากจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ในระยะเริ่มต้นคบกันใหม่ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพูดมากเวลาคับขัน นอกจากจะทำให้เขาเสียสมาธิ คิดไม่ออกแล้ว ยังอาจทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ลำบาก เวลาอยู่ว่างๆก็ขุดเรื่องเมื่อปีมะโว้มาเล่าใหม่ ทำให้เขารำคาญ ภรรยาขี้บ่นแบบนี้นอกจากจะทำให้สามีตกต่ำแล้ว ยังทำให้สามีอายุสั้นอีกด้วย ในระยะยาว ผู้หญิงที่เงียบๆ จะน่ารักกว่า ผลของการกระทำมีความหมายกว่าคำพูด แต่ถ้าผู้หญิงไม่พูดเลยก็จะทำให้ตนเองอายุสั้นได้เช่นกัน ดังนั้นควรจะพูดเท่าที่จำเป็น

ชอบสอนสั่งให้เขาทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง เช่น บอกทางเวลาที่เขาขับรถ บอกให้เขากดชักโครกหลังจากเข้าห้องน้ำ ฯลฯ ที่แท้จริงแล้ว ถ้าเขาอยู่คนเดียว เขาก็จะทำสิ่งเหล่านั้นด้วยตนเองได้ เขาเคยเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เขาอยู่เป็นโสดได้จนถึงอายุ 36ปี โดยไม่มีใครสังเกตุ แต่เมื่อเขาอยู่กับคุณ ในใจเขาคาดหวังว่า คุณจะเป็นผู้ช่วยที่ดี ไม่ใช่ครู

พูดโกหก ความไว้วางใจเป็นสิ่งเชื่อมโยงระหว่างสองคน การพูดโกหกเป็นการทำลายระดับความไว้วางใจให้ต่ำลง ผลคือ ความสัมพันธ์ร้าวฉานเกิดขึ้นได้ง่าย อย่าโกหกให้เขาเห็นแม้แต่การโกหกพ่อแม่ อ้างว่าคุณอยู่ที่อื่น ทั้งๆที่คุณอยู่กับเขา เพราะเขาจะเปรียบเทียบว่า ถ้าคุณโกหกคนอื่นได้ ย่อมโกหกเขาได้เช่นกัน

ขอมีส่วนร่วม ชอบยุ่งกับธุระของผู้ชายในทุกๆเรื่อง ไม่ปล่อยให้เขาได้ไปไหนมาไหนโดยอิสระ แต่ต้องคอยติดสอยห้อยตามไปทุกแห่ง หากไม่เปิดโอกาสให้เขาได้คิดถึง สุดท้ายเขาจะเบื่อ ผู้ชายต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง

ฟุ่มเฟือย ใช้เงินสิ้นเปลือง ซื้อของที่ไม่มีประโยชน์ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของเล็กน้อยราคาถูกหรือได้มาฟรี  เวลาไปเที่ยวด้วยกันอาจซื้อหรือได้รับของที่ไม่ค่อยมีราคามา แต่ขากลับบ้านกลับโยนสิ่งเหล่านั้นให้ผู้ชายเก็บไว้ทั้งหมด บางคนเลือกเฉพาะของที่มีราคา ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่า นำขยะมาให้เขา ซึ่งวิธีที่ถูกต้องคือ ของมีค่าเล็กน้อยควรจะแบ่งครึ่งหรือถ้าไม่มีค่าเลยควรเก็บไว้เอง แต่ถ้ามีค่ามาก ควรแบ่งให้เขามากกว่าเพื่อเป็นการให้เกียรติ หลายคนกินข้าวไม่หมดตักแบ่งให้ผู้ชายช่วยกินหรือเหลือทิ้ง  เพราะตนเองกลัวอ้วนแต่เน้นกินกับข้าวแทน หารู้ไม่ว่า การกินอาหารเหลือทำให้คะแนนความน่ารักที่เขามีให้คุณลดลง ที่จริงแล้วถ้าไม่หิวก็ไม่ควรสั่ง บางคนสั่งกับข้าวมาเยอะมาก แล้วกินไม่หมดเหลือไว้ให้ผู้ชายกินต่อ ทำให้เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ได้สั่ง  หากผู้ชายพบผู้หญิงลักษณะนี้ มักจะรีบหนีห่าง  ไม่กล้าชวนมาร่วมชีวิต หลักการสั่งอาหารคือ คุณควรสั่งเพียงอย่างเดียว เพียงเพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณมีส่วนร่วม ถ้าไม่สั่งเลยจะถูกมองว่าไร้สมอง  แต่ถ้าสั่งมากเกินไปจะถูกมองว่าสุรุ่ยสุร่าย หรือเป็นจอมบงการ และ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนฟุ่มเฟือยมากน้้อยเพียงใดก็ตาม เมื่อร่วมชีวิตกันแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ขอให้คุณจัดการเรื่องเงินให้ คุณอาจช่วยให้เขาสบายใจมากขึ้น ด้วยการมอบอำนาจให้เขาเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว เมื่อเขาไว้ใจคุณแล้ว เขาจะมอบอำนาจในการจัดการเรื่องเงินให้คุณในที่สุด

กลัว หวาดระแวงสิ่งรอบตัว ไม่กล้าแม้แต่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถ้าเขาเปิดเพลง"เจ้าสาวที่กลัวฝน" ให้ฟังแสดงว่า เขาหมดความอดทนแล้ว และนั่นคือการเตือนครั้งสุดท้าย เมื่อถึงเวลานั้นคุณผู้หญิงต้องเลือกระหว่างเลิกคบหากัน หรือเปลี่ยนตัวเอง ดังนั้น จงอย่าเริ่มด้วยการปฎิเสธ แต่จงพยายามให้เขาเห็นก่อนสักครั้ง ทำให้ผลออกมาให้เขาเห็น ถ้าไม่ไหวจริงๆควรนิ่งเสีย ให้เขาคิดได้เอง

อารมณ์แปรปรวน ขาดความอดทน เวลาทำกิจกรรมต่างๆแล้วท้ิอแท้หรือเบื่อง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อิจฉาริษยา โกรธง่าย ถูกว่าเพียงเล็กน้อยก็หงุดหงิด

ชอบปฎิเสธ "ถ้าผู้หญิงพูดว่าไม่ แปลว่าใช่ แต่ถ้าพูดว่าใช่ เธอไม่ใช่ผู้หญิง"  คำปฎิเสธของผู้หญิง ทำให้ผู้ชายหมดอารมณ์ ด้วยคำว่า ไม่ ต่างๆ เช่น ไม่กล้า ไม่ชอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการใช้อารมณ์ทั้งสิ้น ส่วนผู้ชายจะใช้ชีวิตอยู่กับความจริง เขาไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ของผู้หญิงมีหลายความหมาย เช่น ลองใจ  แต่เขาแปลความหมายของคำว่าไม่คือคำว่าไม่สำหรับเขาด้วย

จุ้นจ้าน หลายคนแยกไม่ออกระหว่างความช่วยเหลือกับจุ้นจ้าน แต่ผลออกมาแตกต่างกันเป็นขาวกับดำ ความช่วยเหลือ เกิดจากการที่เขาขอให้คุณช่วย หรือ คุณถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้างมีอะไรให้ช่วย แล้วตอบสนองในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งผลลัพธ์ เป็นขาว คือเพิ่มคุณค่าให้ตัวคุณเอง ส่วนจุ้นจ้านคือ ทำให้โดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ เช่น ซื้อเสื้อผ้าให้โดยที่ไม่รู้ว่าเขาต้องการใส่เสื้อผ้าแบบใด เป็นต้น การให้ในสิ่งที่ผู้รับไม่อยากได้ มีผลลัพธ์เป็นศูนย์หรือติดลบ  คืออาจทำให้เขารำคาญ วิธีที่ถูกต้อง เช่น ถ้าคุณต้องการซื้อเสื้อผ้าให้เขา ควรหมั่นสังเกตุว่าเขาชอบใส่เสื้อผ้าแบบใด กางเกงขาสั้นหรือขายาว และ ก่อนซื้อ ควรถามเขาว่าเขาต้องการใส่แบบนี้หรือไม่ ถ้าเขาเห็นดีด้วยจึงค่อยซื้อมา ถ้าให้ดีควรให้เขาชวนไปเดินซื้อด้วยกัน

ไม่ซื่อสัตย์ เช่น คบชายหลายคน หรือเอาของที่เขาซื้อให้ในวันพิเศษไปขาย

ไม่ทำอะไรเลย ยิ้มอย่างเดียว ไม่จุ้นจ้านและไม่ช่วยเหลือ รอให้เขาพาไปไหนมาไหน ประโยคที่ผู้ชายกลัวที่สุดคือคำว่า "อะไรก็ได้" เขาอาจคิดว่าคุณโง่ หรือกลายเป็นลูกสาวมากกว่าที่จะเป็นคู่ควง

ลืมยาก ชอบพูดรื้อฟื้นประสบการณ์กับแฟนคนเก่า หรือ นำประสบการณ์ที่เคยใช้กับแฟนเก่ามาใช้กับเขา เช่น ชอบให้เขานั่งกินข้าวฝั่งเดียวกัน เพราะแฟนคนก่อนชอบนั่งกินข้าวฝั่งเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ชายชอบจึงผู้หญิงที่บริสุทธิ์ ที่ไม่เคยผ่านชายใดมาก่อน เพราะ เขาไม่ต้องการให้ประสบการณ์ในอดีตกับแฟนคนเก่าของเธอ มาทิ่มแทงจิตใจหรือเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของเขา ดังนั้น ถ้าผู้หญิงคนใดที่เคยมีแฟนมาแล้ว เมื่อเริ่มต้นกับแฟนคนใหม่ ควรล้างสมองตนเองใหม่ ลืมเรื่องเก่าที่เคยทำหรือสถานที่ที่เคยไปกับแฟนเก่าให้หมด อย่าเอ่ยปากพูดเรื่องเก่าๆเป็นอันขาด  อย่านำพฤติกรรมของเขาไปคิดหรือพูดเปรียบเทียบกับแฟนเก่า เพราะ ผู้ชายแต่ละคนได้รับการเลี้ยงดูแตกต่างกัน จงคิดว่าตนเองเป็นสาวบริสุทธิ์ แล้วเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่

ปากเหม็น เพราะ ฟันผุ ควรรีบไปอุดฟันถอนฟันและขูดหินปูนให้หมดก่อนจะมาจูบกัน เพราะการจูบการคนมีกลิ่นปากทำให้เขาหมดอารมณ์ได้ทันที ครั้งต่อไปจะไม่กล้าจูบคุณอีก

ไม่รู้จักแต่งตัว การแต่งตัว ต้องเหมาะกับสถานที่ ถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสอง คุณควรโป๊บ้าง หรือ ใส่เสื้อผ้าที่มีสีสัน จะทำให้เขารู้สึกสดชื่น เหมือนมีดอกไม้อยู่ในห้อง แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เดินทางไปพบปะผู้คน ควรแต่งตัวให้มิดชิดและไม่เป็นจุดเด่น

โชกโชน ดูดบุหรี่ ดื่มเหล้าเก่ง เต้นเก่ง ผู้หญิงที่ดูเก่งในเรื่องอบายมุข จะดึงดูดใจในระยะแรก เหมาะเป็นเพื่อนเที่ยวคู่นอน แต่ในที่สุด เมื่อเขาได้ผ่านโลกมากขึ้น  ผู้ชายจะเลือกคู่ชีวิต ที่เป็นผู้หญิงเรียบร้อย อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ไม่ชอบเที่ยวเตร่ เขาเชื่อว่า ผู้หญิงที่อยู่ห้องเช่า ไม่มีผู้ใหญ่คอยห้ามปราม จะนอนกับใครเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้น ถ้าใครที่ไม่มีโอกาสอยู่กับพ่อแม่ ควรไปอยู่หอพักหญิง อยู่กับญาติพี่น้อง หรืออยู่กับเพื่อนหญิงหลายๆคนที่คอยห้ามปรามกัน ถ้าเขารู้จักเพื่อนของคุณแล้วเห็นว่าเพื่อนของคุณไม่ใช่คนดี เขาก็จะเหมาว่าคุณไม่ใช่คนดีเหมือนกับเพื่อน ผู้ชายต้องการผู้หญิงที่มีลักษณะเด่น มาชดเชยในสิ่งที่ตนเองยังขาดอยู่ คนชอบผู้หญิงเปรี้ยว จึงมักจะเป็นพวกไก่อ่อน เขาอาจชอบเที่ยวผู้หญิงบริการ แต่ไม่มีความสามารถในการหาผู้หญิงด้วยความสามารถของตนเอง ต่างจากพวกหัวงู มักจะชอบผู้หญิงเรียบร้อย

ไม่รักษาคำพูด "ความงามของสตรีอยู่ที่สัจจะ" คนที่ชอบเบี้ยว เช่น บอกว่าจะโทรไปหาตอนเย็นแล้วลืม โทรกลับมาหาเขาหลังจากผ่านไปหลายชม. เขาก็เสียความรู้สึกไปหลายชม. เพราะในช่วงเวลาที่เขาต้องรอคอยนั้น เขาต้องเก็บมาคิดไปเองว่า คุณลืมเขาไปแล้วเพราะเขาไม่ใช่คนสำคัญ หรือติดธุระอะไรอยู่ หรือนอกใจเขาไปเที่ยวกับคนอื่นกันแน่ ในกรณีที่นัดกันว่าจะไปไหนด้วยกันแล้วโทรมาเลื่อนนัดกระชั้นชิด เขาอาจต้องเลื่อนนัดคนอื่นเพื่อนัดกับคุณในวันนั้น เมื่อถูกเลื่อนนัด ย่อมทำให้เขาเสียความรู้สึก แถมยังคิดว่าคุณไม่เห็นความสำคัญของเขาอีก การทำเช่นนี้เปรียบได้กับการทำให้อยากแล้วจากไป เพราะ เมื่อคุณเริ่มสร้างความคาดหวังให้เขา ย่อมทำให้เขาเริ่มเครียดที่ต้องเตรียมตัวรอคุณ และเมื่อเขาไม่ได้รับตามที่เขาคาดหวังไว้ ย่อมทำให้เขาเกิดความโกรธ ความเศร้า เมื่อคบกันใหม่ๆ เขาจะอดทนและให้อภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาต้องเสียเวลาบ่อยๆแล้วยังต้องทนไปเรื่อยๆ ความอดทนย่อมมีขีดจำกัด ใครที่โดนแบบนี้บ่อยๆ ก็จะเบื่อคุณในไม่ช้า คนที่จะยอมรับคุณในเรื่องนี้ได้ มีแต่คนที่ไม่สนใจคุณ กับ พวกคนระดับล่างของสังคม ที่ชีวิตไม่มีแก่นสาร ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ความมั่นคง เป็นปัจจัยหลักอันหนึ่ง ที่จะทำให้เขาตัดสินใจเลือกคุณเป็นคู่ครอง ถ้าห่างกันไปแล้ว คุณยังไม่มีคนใหม่ จะทำให้คุณแตกต่างจาก ผู้หญิงทั่วไป ซึ่งต้องการเพียงแค่ใครสักคน ถ้าคุณขาดความมั่นคงกับเขา เขาจะรู้สึกว่า เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร แล้วความสัมพันธ์ของคุณกับเขา จะไม่มีวันกลับมาคืนดีกันได้อีก

คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เวลาคุยกัน มักจะวกเข้าเรื่องของตัวเอง พร่ำเพ้อรำพันถึงปัญหา และความไม่สบายใจของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเริ่มจากการถามเรื่องของเขา หรือคุยเรื่องอื่น แต่พอเขาตอบอะไรมา ก็วนกลับเข้าเรื่องของตัวเอง คนที่ได้คุยด้วยย่อมรู้สึกได้ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนเห็นแก่ตัว

ทำไมเงียบ
เกิดจากสามสาเหตุคือ เขารู้สึกเซ็งในตัวคุณ หรือ  เขากำลังมีปัญหาส่วนตัว  หรือ กำลังรวบรวมข้อมูล ดังนั้น เมื่อความเงียบมาเยือน คุณต้องสอบถามเขาก่อนว่าทำไมถึงเงียบ

เซ็ง ถ้ามีคำตอบออกมาเป็นชุด แสดงว่าเขาได้ข้อสรุปแล้วและรู้สึกเซ็ง  ความรู้สึกเซ็ง เกิดจากคุณทำให้เขาเสียความรู้สึกด้วยคำพูดหรือพฤติกรรมต่างๆ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  ดังนั้น คุณควรจะทะนุถนอมความรู้สึกของเขาให้ดี ถ้าเขาตักเตือนหรือ แสดงความรู้สึกไม่ดีต่อตัวคุณออกมาเมื่อใด คุณควรสอบถามความรู้สึกของเขาให้ละเอียด ขอให้เขาพูดเรื่องที่คาใจ คั้นออกมาให้หมด อย่าปล่อยให้เรื่องผ่านเลยไป และ ควรแก้ไขสิ่งที่เขาไม่ชอบ หรือถ้าเห็นว่าตนเองทำดีอยู่แล้วไม่ต้องแก้ไข ก็ควรหาเหตุผลมาอธิบายให้เขาละเอียด

ปัญหาส่วนตัว ถ้าเขาตอบว่าไม่ต้องยุ่ง แสดงว่าเป็นปัญหาส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับคุณ เช่น ครุ่นคิดเรื่องงาน เขาต้องการแก้ไขปัญหานั้นด้วยตนเอง คุณควรเงียบแล้วปล่อยให้เขาอยู่ในโลกส่วนตัว คุณอาจบอกเขาว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือขอให้บอก จะทำให้เขารู้สึกว่ามีคุณคอยเป็นกำลังใจอยู่ แต่การให้อิสระนี้ ต้องคอยติดตามสอบถามเขาอยู่เสมอ อย่าหายไปเลย เพราะอาจทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจเขา หรือ นอกใจไปหาความสุขกับคนอื่นในขณะที่เขากำลังลำบาก

รวบรวมข้อมูล ถ้าไม่มีคำตอบว่าทำไมถึงเงียบ แสดงว่าเขาไม่แน่ใจในตัวคุณ และกำลังรวบรวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำอย่างไรกับคุณต่อไป ผู้ชายมีศักดิ์ศรีมาก เขาจึงไม่กล้าเอ่ยปากถาม แต่กำลังรอคำตอบจากคุณ ให้อาศัยจังหวะสูญญากาศนี้  อธิบายเรื่องต่างๆของคุณให้ชัดเจน ก่อนที่จะหมดเวลา ก่อนที่เขาจะอาศัยข้อมูลแวดล้อมมาใช้แทน  ทำให้เปลี่ยนจากความรู้สึกเฉยๆกลายเป็นเซ็ง หรืออาจรุนแรงถึงขั้นบอกเลิก
ทำไมบอกเลิก
ถ้าถูกทรยศหักหลัง โดนสวมเขา เพียงครั้งเดียวสามารถบอกเลิกได้ทันที เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ชายทุกคนรับไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะมีแฟนใหม่ แต่ความเจ็บปวดนี้ยังคงทำร้ายจิตใจของเขาอยู่

อาการเซ็งบ่อยๆ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข สามารถทำให้เลิกรากันได้เช่นกัน ถึงแม้จะไม่บอกเลิกตรงๆ แต่เขาอาจเหินห่างไปจนไม่ได้พบหน้ากันอีก ดังนั้น เมื่อเขาไม่ชอบสิ่งใด คุณควรหาทางแก้ไขทันที สิ่งใดที่เขาเข้าใจผิด ต้องรีบอธิบายด้วยเหตุผลให้กระจ่าง อย่าปล่อยทิ้งไว้ มิฉะนั้น เขาจะเริ่มเปลี่ยนเอง คือเปลี่ยนความรู้สึก จากหวานชื่น เป็นเฉยเมย และ ขม คือ หมดความอดทนในที่สุด เมื่อหมดอความอดทนแล้ว เรียกคืนกลับมาได้ยาก  เพราะภาพอดีตอันเลวร้ายของคุณฝังใจเขาไว้แล้ว เปรียบเสมือนแก้วที่ถูกกระแทกจนร้าว แก้วที่ร้าว ย่อมใช้ประโยชน์ใดๆไม่ได้   เหตุผลที่เขาหมดความอดทน อาจไม่ใช่เรื่องจริง หรือ อาจเป็นเพียงเรื่องในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่เรื่องทั้งหมด เพราะ ความจริงอาจเจ็บปวด หรือซ่อนอยู่ในจิตสำนึกของเขามานาน เกินกว่าที่เขาจะพูดออกมาได้หมด

ทำไมต้องซ้อม
ผู้หญิงถูกซ้อม เกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ นอกใจ และ ปากไว ที่ผู้หญิงตอบโต้ก็เพราะผู้ชายทำตัวไม่ดี สาเหตุจริงๆที่ผู้ชายทำตัวไม่ดีก็เพราะความเครียด ทำให้เขาหาทางออกไม่ได้ ในเมื่อยังต้องทนอยู่ด้วยกัน และ พูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง ก็ต้องใช้กำลังบังคับ บางทีโรคเครียดก็เกิดจากผู้หญิงไม่ให้เกียรติ หรือ เกิดจากขาดแมกนีเซียม สังเกตุง่ายๆว่าผู้ชายจะมีพฤติกรรมคลายเครียดอย่างอื่น เช่น สูบบุหรี่ เล่นการพนัน มีเมียน้อย ถ้าผู้หญิงเข้าใจสาเหตุ ไม่ตอบโต้ ความเครียดของเขาก็จะลดลง แต่ถ้ายังทำตัวแรงๆ ปัญหาแยกทางกันย่อมตามมา ถ้าทำตัวดีสงบปากสงบคำแล้ว สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การแยกกันอยู่สักพัก ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว อาจช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น หรือบางทีเขาก็อาจจะไปหาคนใหม่เลย

ทำไมผู้ชายไม่รู้จักพอ
ผู้ชายจะพยักหน้ากับประโยคที่ว่า "ถึงแม้เราจะได้พบกับผู้หญิงอีกร้อยคนพันคน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่เราห่วงใย"  ผู้ชายไม่อยากเจ้าชู้ แต่ผู้หญิงทำให้เขาเป็นเช่นนั้น คนที่กินข้าวที่บ้านอิ่ม จะไม่อยากออกไปกินข้าวนอกบ้าน

ถ้าเขาคบผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคน แสดงว่า เราไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเขา ไม่ใช่เพราะเขาเบื่อที่ต้องคบกับเราคนเดียว

แฟนมีกิ๊ก
ถ้าผู้ชายเจ้าชู้ คบผู้หญิงคนอื่น คุณไม่ควรจะไปแก้แค้นเขาด้วยการไปหากิ๊กบ้าง เพราะคุณเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีแล้วยังทำแสดงว่าคุณเลวกว่าเขา และถ้าเขารู้เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับขาจะจบลงแบบไม่มีวันหวนกลับ เพราะสังคมยังถือว่าผู้หญิงนอกใจเป็นคนเลว อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะกลับมาคืนดีกับเขาได้ ถ้าเขาจะเป็นคนใจอ่อน และคุณมีดีพอที่จะทำให้เขาใจอ่อนได้

วิธีที่ดีที่สุดคือ ถ้าคุณชอบเขา คุณควรจะอยู่เฉยๆ เพื่อสักวันหนึ่งเขาจะพบว่าคนใหม่ไม่ดีเท่าคนเก่า เขาจะหวนกลับมาหาคุณ แต่ถ้าคุณไม่อาลัยเขาแล้ว ก็ควรจะลองคบหาคนใหม่ แต่เมื่อไปแล้ว อย่าย้อนกลับมาหาเขาอีก มิฉะนั้นคุณอาจถูกเขาลงโทษได้

ควรเล่าประวัติส่วนตัวหรือไม่
การคบกันต้องอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจกัน ไม่ว่าคุณจะผ่านผู้ชายมากี่คน หรือผ่านสิ่งเลวร้ายใดๆมา ควรจะเล่าให้เขาฟังให้หมด แต่ไม่ต้องเล่าละเอียด อย่ากลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ เพราะผู้ชายเกิดมาเพื่อรับรู้ความจริง และ เมื่อเล่าจบแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนั้นอีก เพื่อไม่ให้เขารู้สึกแย่ไปกว่านั้น แต่ถ้าไม่เล่าแล้วปล่อยให้เขามารู้ความจริงด้วยตนเองในภายหลัง จะทำให้เขาเสียความรู้สึกยิ่งกว่า

ผู้ชายอายุเท่าไหร่ดี
ชายที่มีวุฒิภาวะสูงขึ้น จะครองใจผู้หญิงได้ง่ายขึ้น วุฒิภาวะนี้ไม่เกี่ยวกับอายุ คนที่อายุมาก ไม่จำเป็นที่จะมีวุฒิภาวะมากเสมอไป คนที่มีวุฒิภาวะมาก จะเข้าใจผู้หญิงมากขึ้น คนที่ขาดวุฒิภาวะจะชอบมองผู้อื่นในมุมมองของตน ผลกระทบคือคุณอาจถูกคุกคามทางวาจาจนถึงการดูถูก ยกตัวอย่างเวลาที่คุณเผยจุดอ่อนให้เขาเห็น เขาจะสรุปด้วยวลียอดนิยม "เห็นไหมว่าแล้ว" ถ้าคุณพบคนเช่นนี้ มีสองทางเลือกคือ อดทน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร หรือถ้าคุณพบคนที่มีวุฒิภาวะสูงถือว่าโชคดีมาก

ตามธรรมชาติแล้ว ผู้ชายควรมีอายุมากกว่าผู้หญิงประมาณ 5 ปี ทั้งนี้เพราะผู้หญิงมีความคิดที่ล้ำหน้ากว่าผู้ชายในวัยเดียวกัน ชายที่อายุเท่ากันหรือน้อยกว่าผู้หญิง มักจะมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย ทั้งนี้เพราะฝ่ายชายยังขาดวุฒิภาวะ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเซ็กส์แล้ว ผู้ชายควรจะอายุมากกว่าผู้หญิง 10-30 ปี เพราะ ผู้ชายสามารถมีความต้องการทางเพศได้จนแก่ตาย ในขณะที่ผู้หญิงจะหมดประจำเดือนในช่วงอายุประมาณ 50ปี หลังจากนั้นเธอจะกลายเป็นป้าแก่ๆคนหนึ่ง ที่ไม่มีอารมณ์ ไม่มีน้ำหล่อลื่น นี่คือเหตุผลที่อาเสี่ยแก่ๆ ชอบหาเมียน้อย เพราะเมียตัวเองไม่สามารถตอบสนองเรื่องเซ็กส์ได้

ผู้ชายแบบไหนสมควรเป็นพ่อของลูก
ผลงานวิจัยพบว่าลูกผู้ชายจะได้ความเป็นชายจากพ่อ แต่ได้หน้าตาจากแม่ ส่วนลูกสาวจะได้หน้าตาจากพ่อ ถ้าคุณอยากได้ลูกชายที่มีคุณภาพ คุณต้องหาผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ รู้จักเสียสละ

เขาจะขอเราแต่งงานหรือเปล่า
ผู้ชายไม่ค่อยชอบเรื่องแต่งงาน แต่ที่แต่งเพราะโดนผู้หญิงบังคับ ผู้หญิงคิดว่า เป็นการให้เกียรติกัน ส่วนผู้ชายคิดว่า งานแต่งงานเป็นเพียงวันเดียว ในชีวิตคู่ที่เป็นหมื่นๆวัน

ผู้ชายสามารถทำดีกับคนอื่นได้ทั้งๆที่กำลังแค้นคนนั้นอยู่หรือแม้แต่ไม่ได้คิดอะไรเลย  จึงไม่มีการกระทำใดที่บ่งบอกได้ชัดเจน เช่นถ้าเขาพาเราไปบ้าน เขาอาจพาคนอื่นไปบ้านได้เช่นกัน ทางที่ดีคือ รู้จักผู้ชายไว้มากๆ  การกระทำที่มีแนวโน้มว่าเขาจะจริงจังกับเรา คือ พาไปพบพ่อแม่ แล้วพ่อแม่ของเขาทำหน้างง หรือบอกว่าลูกชายไม่เคยพาใครมารู้จัก แต่ถ้าพ่อแม่ทำหน้าเฉยๆ เดาได้ว่า พามาพบแทบทุกคน แต่ถ้าเขาไม่พาไปรู้จักพ่อแม่ อย่าตีความหมายความว่าเขาไม่จริงจังด้วย เพราะอาจมีเหตุผลอื่น เช่น เขายังไม่แน่ใจ ต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออายปมด้อยของคนที่บ้าน ฯลฯ

คนที่พูดว่า "พอแล้ว" ใช้ชีวิตคุ้มแล้ว เมื่อเขาตัดสินใจแต่งงานหมายถึงเขาจะไม่เปลี่ยนใจอีก เพราะเขาเห็นโลกมามาก การที่เขาเลือกคุณหมายถึงคุณถูกใจเขามากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยพบมา

ผู้ชายอีกประเภทหนึ่งที่มีแนวโน้มจะแต่งงานค่อนข้างสูงคือคนที่ไม่มีตัวเลือก ไม่มีใครสนใจแล้ว เช่น แก่ หรือ หัวล้าน  และคนประเภทนี้มักจะไม่มีโอกาสเจ้าชู้อีกในอนาคต

เป็นไปได้ยากที่คุณจะจับคนหนุ่ม อายุน้อย มาแต่งงาน หรือ ถ้าทำได้จริง เขาจะมีเรื่องเจ้าชู้ตามมาภายหลัง เพราะคนหนุ่มยังรู้สึกว่าตนเองใช้ชีวิตยังไม่คุ้ม

คำพูดลอยๆที่เขาพูดออกมาเอง โดยไม่มีสถานการณ์ใดๆบังคับ เป็นคำพูดที่พอจะเชื่อถือได้ ถ้าคำพูดของเขาสื่อไปในทางที่จะผลักคุณออกจากชีวิต ประมาณว่าสักวันหนึ่งเราต้องแยกทางกัน แสดงว่าเขาไม่คิดจะจริงจังกับคุณ หรือถ้าคำพูดของเขาสื่อไปในทางที่จะจริงจังหรือสร้างอนาคตด้วย แสดงว่าคุณมีความหวัง ยกเว้นเขาชมคุณในช่วงเริ่มคบกันใหม่ๆ จงอย่าปักใจเชื่อ เพราะอาจเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ

ผู้ชายมักจะรู้เรื่องนี้ดี ลองหาทางสอบถามจากเพื่อนสนิทของเขา ว่า ความสัมพันธ์ของคุณควรจะดำเนินต่อไปอย่างไร  ผู้ชายจะตอบแบบไม่ให้เสียน้ำใจ  ถ้าคำตอบที่ได้รับคือ "ให้คุณทำใจ" ละก็ เตรียมหาคนใหม่ได้เลย อย่าดันทุรัง เพราะ คุณจะไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของเขาได้ แต่ถ้าคำตอบที่ได้รับคือ ไม่รู้ แสดงว่าเพื่อนคนนี้อาจไม่ใช่เพื่อนสนิท ให้ถามเพื่อนคนอื่นต่อไป

เขาชอบมีเซ็กส์แบบไหน
ผู้ชายเหมือนเครื่องเบนซินจุดปุ๊ปติดปั๊บ เขาจะประทับใจ ถ้าคุณให้ใส่ทันที ไม่ต้องเล้าโลมให้เสียเวลา และถ้าใส่บ่อยๆยิ่งชอบ  แต่ที่เขาเล้าโลมคุณเพราะเขาเข้าใจว่าผู้หญิงเป็นเครื่องดีเซลต้องอุ่นเครื่องนานกว่าจะร้อน แต่ตามธรรมชาติแล้วเขาไม่ได้ชอบรอนานขนาดนั้น เพราะมันทำให้อารมณ์ของเขาลดลง

ของขวัญ
ของขวัญเหมาะสำหรับให้ในวันพิเศษ ผู้ชายชอบของขวัญที่ใช้งานได้จริง ไม่ชอบของที่ระลึก ของที่ผู้ชายทุกคนมักจะขาดคือ แบตเตอเลี่ยน ใช้โกนหนวด โกนขนรักแร้ หรือใช้โกนหัวก็ได้ แต่ก่อนจะซื้อต้องถามเขาก่อนว่า ใช้อะไรโกนหนวด มีแบตเตอเลี่ยนหรือยัง ถ้ามีแล้วก็ต้องดูพวก เครื่องตัดขนขมูก กันจอน และตัดผมตรงเหนือใบหู

ของที่ระลึก เหมาะสำหรับมอบให้ในเวลาที่เขาออกเดินทาง ถึงแม้ว่าจะไม่มีรูปคุณในกระเป๋าเงินของเขา แต่ของชิ้นนี้ จะเป็นเครื่องเตือนให้เขาคิดถึงคุณอยู่เป็นระยะ ในฐานะผู้ที่คอยเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ และ คุณสามารถหาซื้อมาให้เขาได้ ไม่จำเป็นต้องมีความหมาย แต่ควรเป็นของที่สวยงาม และ หาได้ยากในท้องตลาด  ผู้ชายชอบของที่ระลึกที่ทำจากมือ ถึงแม้จะใช้งานไม่ได้ หรือไม่ได้มีความหมาย แต่เป็นความภูมิใจลึกๆ เขาจะไม่ทิ้งแน่ๆ ต่างจากของที่ไปซื้อหามาให้เขา ถึงแม้จะราคาแพงเพียงใด แต่ก็ไร้ค่า เพราะเขาคิดในใจว่า เขามีเงินซื้อเองได้ หรือที่ร้ายกว่านั้นคือ เขาคิดว่า เงินซื้อเขาไม่ได้

สิ่งที่ควรระวัง ไม่ว่าจะเป็นของขวัญหรือของที่ระลึกคือ ควรเป็นของชิ้นเล็กๆ พกพาได้ง่าย ไม่ควรมีขนาดใหญ่ เพราะ เขาจะหาที่เก็บไม่ได้ และการให้สิ่งของนี้ ควรให้แบบเซอร์ไพรส์คือเขาไม่รู้ตัวว่าจะได้รับ ไม่ควรจะให้บ่อย การให้บ่อยจะกลายเป็นสิ่งไม่มีคุณค่าไป

ผู้หญิงในดวงใจ
ผู้หญิงหน้าตาดี หุ่นดี เอวเป็นเอว อกเป็นอก ผู้ชายทุกคนอยากเข้าใกล้ เพียงเพื่อจะได้มีเซ็กส์ด้วย แต่พอได้ฟันแล้ว ถ้าเธอไม่มีข้อดีอย่างอื่น ที่จะยึดเหนี่ยวเขาไว้ได้ เขาจะเดินจากไป จุดยึดเหนี่ยวนี้คือ ปมด้อยของเขา วิธีหาปมด้อยของเขา คือ หลอกถาม อย่าตั้งคำถามเปิด ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน เขาจะไม่ตอบ เพราะเขากลัวว่าคำตอบนั้นจะไม่ตรงกับตัวคุณ แล้วจะทำให้คุณอับอาย จึงต้องถามให้เฉพาะเจาะจงลงไป เช่นถามว่า "คิดยังไงกับผู้หญิงการศึกษาต่ำ" ถ้าเขาตอบว่าไม่ชอบ เพราะว่า จะเลี้ยงลูกให้ออกมาโง่ แล้วคุณมีการศึกษาไม่ดี แสดงว่าคุณไม่ใช่สเปคของเขา ,  หรือถามว่า "ผู้หญิงทำงานหรือผู้หญิงอยู่บ้านอย่างไหนดีกว่ากัน" ถ้าเขาตอบว่าผู้หญิงทำงานแสดงว่า ถ้าคุณอยู่กับเขาไป คุณต้องทำงานนอกบ้านแน่นอน แต่ถ้าเขาตอบว่าผู้หญิงอยู่บ้านดีกว่า เดี๋ยวเขาเลี้ยงเอง นั่นคือ ถ้าคุณอยู่กับเขา คุณไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ฯลฯ คำถามเหล่านี้ ควรเป็นเรื่องที่เขายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ มิฉะนั้น เขาจะเลี่ยงตอบ ไม่ให้คุณเสียใจ

เมื่อรู้ว่าเขาต้องการผู้หญิงแบบไหนแล้ว ถ้านิสัยของคุณไม่ตรงกับสเปคของเขา อย่าคิดไปร่วมชีวิตกับเขา เพราะคุณจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ยกเว้นคุณสามารถเปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ใช่สิ่งที่ตนเองรัก อาจทำได้ไม่นาน พอเขาเห็นตัวตนที่แท้จริงเผยออกมา เขาจะเบื่อหน่าย

เขาชอบเราเพราะอะไร
สิ่งที่เขามองเราที่แท้จริงแล้วคือเขามองตัวเขาอยู่  วุฒิภาวะของมนุษย์มี 3 ขั้น เริ่มจาก พึ่งผู้อื่น พึ่งตนเอง จนถึงขั้นสุดท้ายซึ่งเป็นพัฒนาการสูงสุดคือ พึ่งพากันและกัน

ถ้าเขาชอบเราเพราะเราขยัน หรือต้องการให้มาช่วยงาน แสดงว่า เขายังอยู่ในวิวัฒนาการขั้นแรกคือ พึ่งผู้อื่น ยังพึ่งตนเองไม่ได้  คนประเภทนี้ควรจัดไว้เป็นตัวเลือกในอันดับท้ายๆ เพราะ คนที่พึ่งตนเองยังไม่ได้ แล้วจะหวังให้เขาพาครอบครัวไปตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร หรือถ้าวันใดเขาพึ่งตัวเองได้แล้วเขาจะไม่ถีบหัวเราส่งหรือ

ถ้าเขาหาเลี้ยงตนเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณ แต่เขายังพยายามจะควบคุมทุกอย่าง รวมทั้งควบคุมชีวิตของคุณด้วย คล้ายกับนิสัยของเด็ก ที่ต้องการหยิบฉวยสิ่งต่างๆ ให้ได้ ตามที่ใจต้องการ แสดงว่า เขาพึ่งตนเองได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ระหว่างพัฒนาการ แต่จัดว่าผู้ชายประเภทนี้ไม่เลวร้าย และเลือกมาเป็นคู่ครองได้

แต่ถ้าเขาชอบเรา เพราะเราทำหน้าที่ของผู้หญิงได้ดี เช่น อบอุ่น ทำกับข้าวเก่ง นี่คือมุมมองของผู้ที่มีวุฒิภาวะสูงสุดคือเป็นแบบพึ่งพากันและกัน คือ  เราจะสามารถชดเชยในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ ในขณะที่เขาทำในสิ่งที่เขาทำได้ ถ้าคุณได้พบผู้ชายประเภทนี้ถือว่าโชคดีมาก

บางคนอาจมีพฤติกรรมสองอย่างผสมกัน เช่น ต้องการให้คุณช่วยทำงาน และ ต้องการบงการของคุณด้วย คนเหล่านี้อยู่ระหว่างเปลี่ยนวุฒิภาวะ เช่น เปลี่ยนจาก พึ่งผู้อื่นมาเป็นพึ่งตนเอง แต่เขายังพึ่งตนเองไม่ได้โดยสมบูรณ์

ทำไมฟันแล้วทิ้ง
ผู้หญิงบางคนทำตัวน่าเบื่อ โดยเฉพาะพวกไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก ไม่มีมารยามากพอ ทำให้ไม่เร้าใจ ทั้งเรื่องบนเตียงหรือเรื่องการใช้ชีวิต  บางคนมีประวัติโชกโชน คงไม่มีใครอยากได้ผู้หญิงหากินมาเป็นแฟน ผู้ชายส่วนใหญ่อยากได้ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ พวกเขารู้ดีว่า ผู้หญิงที่แยกตัวออกมาพักอยู่คนเดียวนั้น มักจะไม่มีใครคอยห้ามปรามและมีโอกาสเสียตัวได้ง่ายและบ่อยครั้ง

แม่บังคับให้ไปแต่งงาน
เขาต้องไปแต่่งงานจริง แต่ไม่ใช่เพราะถูกแม่บังคับ แต่เป็นเพราะ เขามีเหตุผลอื่นที่ต้องแยกทางกับคุณ เช่น พบผู้หญิงที่ดีกว่าคุณ เขาจำเป็นต้องนำแม่มาอ้างเพื่อไม่ให้เขาเป็นคนผิด

วิธีช่วงใช้ผู้ชาย
ผู้ชายมีจุดอ่อน 2 ข้อ ที่ผู้หญิงสามารถช่วงใช้ผู้ชายให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
  1. ให้เกียรติเขา ทำให้เขารู้สึกว่ามีคุณค่าในสายตาของคุณ แล้วเขาจะยอมทุ่มเทให้คุณ ถ้าไปเที่ยวด้วยกันก็แสดงออกว่าคุณชอบในสิ่งที่เขาพาไปสัมผัส แล้ววันหลังเขาจะอยากพาคุณไปอีก ผู้ชายด้วยกันรู้จุดอ่อนข้อนี้ดี และพวกเขาจึงปฎิบัติอย่างให้เกียรติกัน
  2. บีบน้ำตา ผู้ชายเห็นน้ำตาก็จะสงสาร และอ่อนระโหยโรยแรง ยอมทุกอย่าง

การขอบคุณ

เวลาผู้ชายทำอะไรให้เรา แค่คำว่าขอบคุณยังธรรมดาไป ไม่ทำให้เขาประทับใจ เพราะใครๆก็พูดได้ ถ้าอยู่ห่างๆควรยกมือไหว้ ถ้าอยู่ใกล้ควรยกมือไหว้บนหน้าอกตรงหัวใจ เป็นการแสดงความเคารพให้เกียรติเขา ทำให้เขารู้สึกพิเศษกว่าคนทั่วไป

สุภาษิตสอนหญิง

เป็นสุภาษิตที่หญิงทุกคนควรอ่านและปฎิบัติตาม ถึงแม้จะโบราณแต่นิสัยผู้ชายเรื่อง เกียรติศักดิ์ศรี และความต้องการ ไม่เคยเปลี่ยน ถ้าอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร แค่ส่งสุภาษิตสอนหญิงให้เขาอธิบาย ถามเขาว่าบรรทัดไหนสำคัญ เช่น

    จะหาคู่สู่สมนิยมหวัง
    จงระวังชั่วช้าอัชฉาสัย
    ที่ชายดีนั้นก็มีอยู่ถมไป
    ใช่วิสัยเขาจะชั่วไปทั้งเมือง

    คนสูบฝิ่งกินสุราพาจัญไร
    แม้นหญิงใดร่วมห้องจะต้องจน
    บ้างเล่นเบี้ยเสียถั่วมัวทะนง
    หน่อยก็ลงจำนำเขาร่ำไป

    เอาใจผัวจะรักเจ้านักหนา
    หมั่นนำพาการเรือนอย่าเชือนเฉย
   
    อยู่สถานบ้านช่องนั้นต้องคิด
    ให้รู้กิจการหญิงทุกสิ่งสา

    จงระวังนั่งดูอยู่ใกล้ใกล้
    เผื่ออะไรมันขาดจะเรียกหา

    ความสิ่งไรในจิตจงปิดงำ
    อย่าควรนำแนะออกไปนอกเรือน
   
    การสิ่งไรที่ชั่วผัวเขาห้าม
    ประพฤติตามแบบแผนให้แม้นเหมือน
   
    การนินทาด่าผัวนั้นชั่วถ่อย
    เป็นคนน้อยปัญญาเสียราศี
   
    บางนารีเป็นนางใจร้ายกาจ
    หมิ่นประมาททุ่มเถียงส่งเสียงแข็ง

    จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
    อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
    ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู
    คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
     
    แม้นผัวเดือดเจ้าจงดับระงับไว้
    อย่าพอใจขึ้นเสียงเถียงประสม
    เขาเป็นไฟเราเป็นน้ำค่อยพรำพรม
    แม้นระดมขึ้นทั้งคู่จะวู่วาม

    จงซื่อต่อภัสดาสวามี
    จนชีวีศรีสวัสดิ์เจ้าตัดษัย
    อย่าให้มีราคินที่กินใจ
    อุปไมยเหมือนอนงค์องค์สีดา
     
    ถึงที่สุดทดลองก็ทองแท้
    ด้วยนางแน่อยู่ในสัจอธิษฐาน์
    หญิงเดี๋ยวนี้แม้นมีสัตยา
    ภัสดาก็ยิ่งรักขึ้นหนักครัน

ละครสอนหญิง

วนิดา (2553) เป็นละครสอนหญิงได้ดีที่สุด ว่าทำอย่างไรให้ผู้ชายหลง ไม่ได้สำคัญที่ความสวย แต่สำคัญที่นิสัย ที่เริ่มต้นด้วยการให้คุณค่า (value) แก่คนอื่นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้น ทำให้เขามีความสุข ทั้งทางกาย (ช่วยงานบ้าน) และใจ (ให้ความสุข) ทีละเล็กละน้อย จะทำให้คนรักอย่างรวดเร็ว คนจะจำเราที่คำพูดและการกระทำ พอคนได้รับความสุขจากเราแล้ว หลังจากนั้นเรารอเป็นฝ่ายรับได้เลย แถมการทำให้ผู้ชายมีความสุข จะทำให้เวลาเขาทุกข์แล้ว จะวิ่งมาหาเรา แทนที่จะวิ่งไปหาอบายมุข ตัวอย่างของการให้คุณค่าคือ
ข้อแรก ทำให้พันตรีประจักษ์ เริ่มหันมาสนใจวนิดา จึงทดสอบข้อสองแล้วผ่าน ทำให้เริ่มใจอ่อน เมื่อบวกกับข้อสาม ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชอบ ส่วนข้ออื่นๆช่วยแซะ ช่วยบวกความรู้สึกชอบให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นรักในที่สุด เมื่อรวมทุกข้อจึงรักหมดหัวใจ ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งไป เช่น ไม่พูดจาให้เกียรติ สิ่งดีๆที่ทำมาทั้งหมดก็จะพัง ความคิดร่วมชีวิตหมดไป

สังเกตุว่า ประจักษ์เริ่มสนใจ ตั้งแต่ตอนนี้ยืนดูวนิดาอาบน้ำ ซึ้งผู้ชายปกติถ้าไม่สนใจผู้หญิง จะเดินผ่านไป
สังเกตุว่า ประจักษ์เริ่มชอบวนิดาตอนที่บอกว่า จะกลับมากินข้าวเย็น ซึ่งความชอบที่เพิ่มขึ้นมาจากวนิดาทำหน้าที่ภรรยาได้ครบถ้วน เพราะคนไม่ชอบแล้วโดนบังคับ คงจะแกลังกลับมาดึกๆ หรือไปดื่มเหล้าแก้กลุ้ม
หลังจากนั้น ประจักษ์พยายามวิ่งเข้าหาวนิดาตลอด เช่น ชวนไปกินข้าวนอกบ้าน
ตรงกันข้ามกับพิศมัย ที่ประจักษ์เริ่มไม่พอใจตั้งแต่ตอนที่พิศมัยไม่มีน้ำใจให้วนิดาอยู่ห้องน้องชาย พอหลังจากวันที่พิศมัยไปทำลายต้นไม้ของวนิดา แล้ววันรุ่งขึ้นต้องไปกินข้าวด้วยกัน ประจักษ์ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด (สังเกตุจากหน้ากลุ้มใจตอนเปิดประตูรถให้ เพราะถ้าไปกับวนิดาสองคนจะทำหน้ายิ้มๆ) การกระทำไม่ดีต่อๆมาของพิศมัย ทำให้ประจักษ์เอาใจออกห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเรื่องใจดำแล้ว ยังแสนงอน และพยายามขอผู้ชายเสียเวลาเอาใจ จนสุดท้ายทำร้ายวนิดาตอนไม่สบาย ทำให้หมดรักในที่สุด

ที่จริงผู้ชายก็ควรจะดูละครเรื่องนี้ เพราะสอนให้รู้จักเข้าสังคม เช่น สอนให้รู้จักอดทนกับคนที่ทำไม่ดีกับเรา รักษาความดีของเราไว้ เพื่อสักวันคนดีที่ไม่เข้าใจเรา จะเข้าใจ แล้วเปลี่ยนมาทำดีกับเรา

หนังสือแนะนำ

Last update 16 Sep 57